กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE )

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE )

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยหลังจากการปรับตัวลงแรงในเดือนมีนาคมแล้ว ต่อมาในเดือนเมษายนตลาดส่วนใหญ่ก็สามารถปรับตัวฟื้นขึ้นมาได้จากระดับต่ำสุด จากการที่ประเทศต่างๆ มีมาตรการที่เข้มงวดกับการรับมือการแพร่ระบาด COVID-19 บรรยากาศการลงทุนตั้งแต่เดือนเมษายนจึงเป็นไปในทิศทางเชิงบวก ถึงแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ประกาศออกมาจะเป็นไปในเชิงลบ แต่ก็เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว นักลงทุนจึงหันมาให้น้ำหนักกับพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับของการแพร่ระบาดในประเทศต่างๆ ความหวังของการพัฒนายาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการกลับมาคลาย Lockdown หลังจากที่สถานการณ์นั้นดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วมากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนและมุมมองของผู้จัดการกองทุน

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) เน้นลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศของบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการบริโภคในอนาคต หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และหรือนวัตกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับแนวโน้มการบริโภค การดำเนินธุรกิจ และเศรษฐกิจในอนาคต

ปัจจุบัน กองทุน B-FUTURE ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ 2 กองทุน ได้แก่ Allianz Global Artificial Intelligence และ Fidelity Fund –China Consumer Fund ซึ่งข้อมูลการลงทุนและมุมมองจากผู้จัดการกองทุนทั้งสองกองทุน มีดังนี้

Allianz Global Artificial Intelligence  (ณ มีนาคม 2563 กองทุน B-FUTURE มีสัดส่วนการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศนี้ที่ 43.35%)

วัตถุประสงค์: เน้นลงทุนในบริษัทที่มีพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์ (AI Infrastructure) แอปพลิเคชันที่ต้องใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI Application) และธุรกิจที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อพัฒนาด้านการผลิตหรือการให้บริการ (AI-enabled Industries)

ภาพรวมของธุรกิจในกลุ่ม Artificial Intelligence พบว่ามีความสำคัญมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะ

  • Network infrastructure ทวีความสำคัญมากขึ้นเพราะในโลกปัจจุบันเต็มไปด้วยการเชื่อมโยงกันเป็นใยแมงมุม การวางโครงสร้างระบบเครือข่ายเพื่อการเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์ตั้งแต่ 2 โครงข่ายเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนสื่อสารข้อมูล ผนวกกับโครงสร้างระบบเครือข่ายพื้นฐานทั่วโลกนับเป็นปัจจัยที่สำคัญ การวางโครงสร้างที่ดีจะช่วยทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันมีการทำงานอย่างเป็นระบบ มีศักยภาพ
  •  Software โดยเฉพาะ Software ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสาร เนื่องจากธุรกิจยกระดับตัวเองจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ซึ่งทั้งหมดได้ประโยชน์จากการ work from home ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นมาเร็วกว่ากลุ่มอื่น
  • ขณะที่ กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการหยุดผลิตที่ประเทศจีนในเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มกลับมาดีขึ้นเมื่อโรงงานจีนเริ่มการผลิตอีกครั้งในเดือนเมษายน ประกอบกับความต้องการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเซฟเวอร์ยังอยู่ในระดับสูง จึงทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้น แม้สถานการณ์ COVID-19 จะทำให้วัฏจักรการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ขยายระยะเวลายาวออกไปอีก แต่หากมองในระยะยาวแล้วหุ้นกลุ่มนี้มีโมเดลทางธุรกิจที่ดี โครงสร้างการเงินดีเยี่ยม มีระดับราคาไม่แพงในเชิงเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่วัฏจักรของธุรกิจนี้ฟื้นตัว หุ้นในกลุ่มนี้จะวิ่งขึ้นได้ดีกว่าตลาด
  • ผู้จัดการกองทุน มองว่า การปรับตัวลดลงในเดือนมีนาคมนั้น ตลาดรับรู้ข่าวร้ายทั้งหมดแล้ว  การปรับตัวลงที่ผ่านมาเป็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นที่น่าสนใจ ผู้จัดการกองทุนได้เพิ่มการเงินสดอยู่ที่ประมาณ 8% ในปลายเดือนมกราคม จากการขายทำกำไรในหุ้นบางตัว และเริ่มกลับเข้าลงทุนอีกครั้งตั้งแต่กลางมีนาคม โดยคัดเลือกหุ้นอย่างระมัดระวัง

จากที่ได้เกริ่นไว้ในตอนแรกว่า กองทุน Allianz Global Artificial Intelligence เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI  ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ทุกอุตสาหกรรมมีนวัตกรรมใหม่ ๆ และ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต โดยแนวคิดของกองทุนหลักกองนี้ ได้แบ่งประเภทของ AI เป็น 3 กลุ่ม  คือ  AI Infrastructure, AI Application และ AI Enable Industry  ปัจจุบันน้ำหนักการลงทุนของ 3 กลุ่มอยู่ที่ 34% 40% และ 25% ตามลำดับ รายละเอียดดังนี้

นอกจากนี้ผู้จัดการกองทุนยังคัดสรรหุ้นที่นำ AI มาประยุกต์ใช้จากหลากหลายอุตสาหกรรม การวิจัยของ McKinsey Global Institute พบว่า ธุรกิจที่ประยุกต์ใช้ AI เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจ จะมีฐานะทางเงินที่ดีกว่าโดยเปรียบเทียบกับธุรกิจที่ไม่ใช้ AI

(สีส้ม) แสดงถึงอัตราความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่มีการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยจำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม อุตสาหกรรมการผลิตและประกอบยานยนต์ สถาบันการเงิน เป็นต้น

(สีน้ำเงินเข้ม) แสดงถึงอัตราความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ไม่มีการนำ AI มาประยุกต์ใช้

การปรับพอร์ตในช่วงที่ผ่านมา

  • ลดน้ำหนักธุรกิจที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อพัฒนาด้านการผลิตหรือการให้บริการ (AI-enabled Industries) ซึ่งมีสัดส่วน 25% ณ ปัจจุบัน การคัดสรรบริษัทที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการผลิตสินค้าและบริการ อาทิ บริษัทในกลุ่มอี-คอมเมิร์ซ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มสถาบันการเงิน
  • เพื่อให้กองทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากหลากหลายธุรกิจ และกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ไม่กระจุกตัวที่กลุ่มเทคโนโลยีเท่านั้น ผู้จัดการกองทุนได้ลงทุนเพิ่มในธุรกิจการแพทย์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อลดความเสี่ยงให้กับพอร์ต นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจการเงินออนไลน์ เพราะจะเป็นธุรกิจที่ได้ประโยชน์ เนื่องจากผู้บริโภคหันมาทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น
  • เพิ่มน้ำหนักในกลุ่มแอพพลิเคชั่นที่ต้องใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI Application) ซึ่งมีสัดส่วน 40% ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะบริษัท Software & Services เนื่องจากเคยได้ลดน้ำหนักมาตั้งแต่กลางปี 2562 กลุ่มนี้ปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบน้อยจากห่วงโซ่การผลิตเทคโนยีทั่วโลกที่หยุดชะงัก อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการ Work from home สูงที่สุดแล้ว
  • เพิ่มน้ำหนักในกลุ่มธุรกิจที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์ (AI Infrastructure) ซึ่งมีสัดส่วน 34% ณ ปัจจุบัน อาทิ ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เพราะราคาปรับตัวลดลงจนน่าสนใจ การเข้าซื้อในราคาที่ต่ำกว่าช่วงต้นปีถือเป็นโอกาสที่ดีเนื่องจากผู้จัดการกองทุนเคยได้ลดน้ำหนักการลงทุนไปเมื่อต้นปี 2563

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่นว่า การพัฒนาการปัญญาประดิษฐ์ยังอยู่ในช่วงแรกเท่านั้น ธุรกิจต่างๆ ต้องใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้าไปมีส่วนร่วมการผลิตและการบริการ จึงจะเป็นการเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญให้กับธุรกิจดังนั้นการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ จะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

พอร์ตการลงทุนของ Allianz Global Artificial Intelligence จำแนกตามรายประเทศและรายกลุ่มอุตสาหกรรม

ข้อมูล ณ 31 สิ้นเดือน มีนาคม 2563

ผลการดำเนินงานกองทุน Allianz Global Artificial Intelligence

Fidelity Funds – China Consumer Fund (ณ มีนาคม 2563 กองทุน B-FUTURE มีสัดส่วนการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศนี้ที่ 35.51%)

วัตถุประสงค์: เน้นลงทุนในการหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีน (New China)  เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคในจีน เป็นต้น

มุมมองการลงทุนของผู้จัดการกองทุน Fidelity Funds – China Consumer Fund ต่อตลาดหุ้นจีน 

  • ตลาดหุ้นจีนมีความผ่อนคลายมากขึ้นในเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับในช่วงก่อนหน้า เพราะสถานการณ์ด้านโรคระบาดเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐทั้งด้านการเงินและการคลัง อย่างไรก็ตามผู้จัดการกองทุนยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายมาที่ตลาดหุ้นของสองประเทศด้วย สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนให้กองทุนเพื่อการเกษียณของสหรัฐฯ ลงทุนในหุ้นจีน ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนจีน พิจารณาการจดทะเบียนในตลาดอื่นนอกเหนือจากตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น
  • จากการแพร่ระบาด COVID-19 บริษัทที่มีโรงงานการผลิตในจีน บางบริษัทย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นบางส่วน เพื่อลดความเสี่ยงจากการหยุดการผลิตเหมือนที่ผ่านมา
  • ประเทศจีน ปรับตัวเพื่อลดการพึ่งพาประเทศอื่น เช่น เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ จีนจึงเร่งพัฒนาพลังงานอื่นมาเพื่อลดการนำเข้าน้ำมัน และเร่งพัฒนาตนเองด้านการวิจัยยา รวมถึงระบบสาธารณสุขให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา เป็นต้น
  • ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาด ถึงแม้จะลดการ Lockdown แล้ว แต่จีนยังคงมีมาตรการอื่นที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรอบสอง

กลยุทธ์การลงทุนของผู้จัดการกองทุน  Fidelity Funds – China Consumer Fund 

  • กองทุนได้กระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ในไตรมาสที่ผ่านมากองทุนได้รับประโยชน์จากการ overweight ค้าปลีกออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ การศึกษาออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้กองทุนยัง overweight สินค้าอุปโภคบริโภค และ กลุ่ม Healthcare โดยมีมุมมองว่ากลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้ประโยชน์จากการ Work from home และ กลุ่ม Healthcare มีโอกาสเติบโตจากการค้นพบวัคซีนหรือการรักษาแบบใหม่ๆ
  • กลุ่มการเงินโดยเฉพาะประกันเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ จาก COVID-19 มาตรการ Lockdown ทำให้รายได้ลดลง อีกทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลกทำให้กระทบโดยตรงกับภาคการเงิน ผู้จัดการกองทุนได้ขายทำกำไรบางส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามผู้จัดการกองทุนมีมุมมองบวกต่อกลุ่มประกัน เพราะความต้องการด้านประกันชีวิตเพิ่มมากขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ หากแต่ไม่สะดวกในการซื้อประกันฉบับใหม่ด้วยติดมาตรการ lockdown เมื่อมาตรการดังกล่าวผ่อนคลายลง จะทำให้รายได้จากกลุ่มประกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • สำหรับกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ผู้จัดการกองทุนจะพิจารณากลยุทธ์ของแต่ละบริษัท โดยมีมุมมองบวกกับบริษัทที่ปรับ             กลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคต้องการใช้สินค้านั้นๆ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ผู้บริโภคจะกลับมาซื้อสินค้า เนื่องจากช่วงนี้ผู้บริโภคอาจไม่มั่นใจในรายได้ของตน และชะลอการจับจ่ายใช้สอยในสินค้าประเภทนี้
  • ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในบริษัทที่มีกระแสเงินสดเข้มแข็ง และรายได้มีแนวโน้มเติบโตได้ดีเมื่อ COVID-19 คลี่คลาย เพราะเชื่อว่าบริษัทที่มีเงินสดจะสามารถทนต่อสภาวะการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้
  • ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองบวกอย่างมากกับการบริโภคในประเทศจีน (Domestic Consumption) และกลุ่มประกัน ว่าจะเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีหลังสถานการณ์การแพร่ระบาด

Source : Fidelity ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2563

ผลการดำเนินงานกองทุน Fidelity Funds – China Consumer Fund

Index is MSCI CHINA

Source : Fidelity, ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2563

นอกจากนี้ กองทุน B-FUTURE ยังมีส่วนที่กองทุนลงทุนตรงในหุ้นต่างประเทศโดยตรงตามธีมการลงทุน ประมาณ 17.28% ซึ่งผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นเกี่ยวกับการบริโภคในประเทศจีน โดยเฉพาะการบริโภคที่มาพร้อมกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น และให้น้ำหนักภาคบริการมากกว่าอุตสาหกรรมการผลิต เช่น กลุ่ม e-commerce กลุ่มขนส่งและโลจีสติกส์ เป็นต้น การแพร่ระบาด COVID-19 เป็นตัวเร่งทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับการแข่งขัน กองทุน B-FUTURE เป็นกองทุนที่มองเห็นโอกาสในการลงทุนในบริษัทที่ปรับตัว โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ นำมาสู่ผลการดำเนินงานที่ดีของกองทุน

สัดส่วนการลงทุนของกองทุน B-FUTURE ณ 31 มีนาคม 2563

ที่มา: BBLAM

ผลการดำเนินงานของกองทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2563)

ประวัติการจ่ายเงินปันผลกองทุน B-FUTURE

เผยแพร่ ณ วันที่ 19 พ.ค. 2563
ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง