เศรษฐกิจแบบนี้ ลงทุนมุมไหนของโลกดีนะ

เศรษฐกิจแบบนี้ ลงทุนมุมไหนของโลกดีนะ

โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP®

ช่วงเวลาแบบนี้ จะลงทุนอะไรดี จะฝากเงินก็ได้ดอกเบี้ยแค่สลึงเดียว จะลงทุนพันธบัตรก็ต้องถือนาน 5 ปี 10 ปี ถ้าฉุกเฉินจะใช้เงินก็กลัวจะขายไม่ได้ จะหันมาลงทุนหุ้น เจอกระดานแดงก็น่าตกใจ แบบนี้จะเอาเงินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรง ไปลงทุนในอะไรดีล่ะ ?

ถ้าการลงทุนในประเทศมีข้อจำกัด ทำไมเราไม่ลองออกเดินทางไปประเทศต่างๆ กันบ้าง แม้ว่าช่วงนี้จะมีสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางของเราต้องสะดุด แต่การลงทุนไม่เป็นแบบนั้น เราสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตัวเอง หรือจะเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมก็ได้ ถ้าเลือกความสะดวก ลงทุนได้ง่าย เงินลงทุนไม่ต้องมากนัก การเลือกลงทุนในกองทุนต่างประเทศก็เป็นตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะในช่วงแบบนี้ การเลือกลงทุนในกองทุนที่สามารถกระจายการลงทุนไปยังหุ้นทั่วโลก เพื่อค้นหาสินทรัพย์การลงทุนที่มีโอกาสเติบโต ยังสามารถทำได้

ยกตัวอย่างเช่น กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Wellington Global Opportunities Equity Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญ รวมถึงหลักทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับกองทุน REITs ที่ออกโดยบริษัทต่างๆ ทั่วโลก โดยการลงทุนในหุ้นส่วนใหญ่จะลงทุนในอเมริกาเหนือ ลงทุนในยุโรป ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)  ญี่ปุ่น ลดหลั่นตามมา ในส่วนของหุ้น โดยส่วนใหญ่ที่ลงทุนคือ หุ้นกลุ่ม เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) กลุ่มดูแลสุขภาพ (Health Care) และบริการสื่อสาร

การลงทุนในหุ้นรายตัวที่เรารู้จักกัน อย่างเช่น Apple (อุปกรณ์เทคโนโลยี) Amazon (ค้าปลีก) Tencent (สื่อและความบันเทิง เกมส์ออนไลน์) Alibaba (ค้าปลีก) ฯลฯ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่กองทุนเปิด B-GLOBAL ลงทุน

นอกจากนี้ หากคิดว่าการลงทุนแบบนี้เป็นเพียงการลงทุนทั่วๆ ไปในต่างประเทศ เราก็สามารถเลือกลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงลงไปอีกก็ได้ อย่างเช่น กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Wellington Global Health Care Equity Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว ซึ่งกองทุนนี้มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทในอุตสาหกรรม Health Care ทั่วโลก เน้นหนักลงทุนในอเมริกาเหนือ รองลงมาคือ ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งสัดส่วนการลงทุนนี้ขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุนหลักบริหารจัดการ ในส่วนของการลงทุน เน้นหนักไปที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ Biophama และบริการด้านการรักษาพยาบาล

สำหรับใครที่ชอบการลงทุนที่เกี่ยวกับสุขภาพ บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดกองทุนนี้ สำหรับหุ้นที่กองทุนนี้ลงทุน ยกตัวอย่างเช่น UnitedHealth Group  (สถานพยาบาล) Pfizer (บริษัทผู้ผลิตยา : ยาลดระดับไขมันในเลือด)  Abbott Laboratories (Alkaloid) เป็นสารสำคัญทางการแพทย์นำมาใช้ในกลุ่มยาระงับอาการปวด ยาในกลุ่มการรักษาเพื่อต้านมะเร็ง  Thermo Fisher Scientific (ผู้นำตลาดทางด้านสารเคมีที่ใช้วิเคราะห์วิจัยในห้องปฏิบัติการ)

เป็นยังไงกันบ้างกับกองทุนต่างประเทศ ที่ลงทุนได้อย่างหลากหลาย กับการลงทุนที่เน้นเฉพาะในกลุ่มสุขภาพแต่กระจายการลงทุนไปหลายๆ ภูมิภาคทั่วโลก

การลงทุนแบบกระจายการลงทุนเป็นรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวได้ และเป็นการเพิ่มโอกาสในการเลือกลงทุนได้มากขึ้น หากใครที่ยังไม่เคยออกไปต่างประเทศ ลองลงทุนในกองทุนต่างประเทศก่อนก็ได้ ที่สำคัญ ความเสี่ยงบางอย่างย่อมมากขึ้นโดยเฉพาะความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น ก่อนการลงทุนศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ก่อน ทดลองลงทุนแต่น้อยๆ เพื่อความสบายใจค่ะ