กองทุนบัวหลวงยืนหนึ่งผู้นำกองทุนประหยัดภาษีที่นักลงทุนไว้ใจ ชูจุดเด่นทางเลือกหลากหลาย เพิ่มโอกาสกระจายการลงทุนสู่ต่างประเทศกับ RMF-SSF

กองทุนบัวหลวงยืนหนึ่งผู้นำกองทุนประหยัดภาษีที่นักลงทุนไว้ใจ ชูจุดเด่นทางเลือกหลากหลาย เพิ่มโอกาสกระจายการลงทุนสู่ต่างประเทศกับ RMF-SSF

  • กองทุนบัวหลวงประกาศความเป็นผู้นำกองทุนประหยัดภาษีที่นักลงทุนไว้วางใจเลือกให้ดูแลเงินลงทุนระยะยาว พร้อมเสริมความมั่นใจให้นักลงทุนยืนหยัดลงทุนผ่านกองทุน RMF อย่างต่อเนื่องแม้เผชิญกับความผันผวน เพื่อการเกษียณสุข แนะนำกระจายการลงทุนหาโอกาสจากธุรกิจในต่างแดนที่สอดคล้องกับเทรนด์โลก ทั้ง B-INNOTECHRMF BCARERMF B-CHINAARMF และ B-FUTURESSF
คุณวศิน วัฒนวรกิจกุล

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงสนับสนุนให้นักลงทุนเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อเป้าหมายการใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างสุขสบาย รวมทั้งลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะ 10 ปีข้างหน้า ผ่านกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) โดยที่ผ่านมา กองทุนบัวหลวง ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ดูแลเงินลงทุนระยะยาวมากที่สุดในอุตสาหกรรม และพร้อมทำหน้าที่ “มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน” รักษาความไว้วางใจนี้ต่อไป

“ตลอดเส้นทางการลงทุนนั้น อาจจะต้องเจอความผันผวนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเราจะผ่านสถานการณ์เช่นนี้ไปได้ ถ้าเรามองตรงไปยังเป้าหมายการลงทุน แล้วยืนหยัดลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยระยะเวลาที่ยาวเพียงพอ และรู้จักจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น แทนที่จะลงทุนแต่ในประเทศอย่างเดียว ถ้ามีความสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูงขึ้นอีกนิด ก็อาจเริ่มลองจัดสรรเงินบางส่วนลงทุนในต่างประเทศบ้าง เพื่อเพิ่มโอกาสลงทุนกับธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวโน้มโลก ที่เมืองไทยอาจยังไม่มี” นายวศิน กล่าว

สำหรับ กองทุนบัวหลวง มีกองทุนรวม RMF ให้เลือกถึง 19 กองทุน เช่น กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INNOTECHRMF) สำหรับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานการพัฒนาสินค้า บริการ เพื่อวันนี้และอนาคต กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCARERMF) เพื่อผู้ที่สนใจนวัตกรรมการดูแลและรักษาสุขภาพ หรือกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีนเอแชร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-CHINAARMF) สำหรับผู้ที่อยากลงทุนในแผ่นดินจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกและจะกลายเป็นอันดับ 1 ในไม่ช้า เป็นต้น

ส่วนใครที่ตั้งใจลงทุนเพื่อเป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้า กองทุนบัวหลวงมีกองทุน SSF ให้เลือกทั้งหมด 4 กองทุน กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นฟิวเจอร์เพื่อการออม (B-FUTURESSF) สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนกับผู้ผลิตนวัตกรรมสินค้าและบริการ กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัมเพื่อการออม (B-INCOMESSF) สำหรับผู้ที่ต้องการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย หรือถ้าอยากเน้นลงทุนในหุ้นไทยก็มีให้เลือก ทั้งกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อการออม (BEQSSF) และกองทุนผสมบัวหลวง 70/30 เพื่อการออม (BM70SSF)

“ไม่ว่าจะมีเป้าหมายเก็บเงินเพื่อวัยเกษียณ หรือจะเตรียมเงินก้อนไว้ใช้ทำอะไรในอนาคต กองทุนบัวหลวงก็มีทั้งกองทุน RMF และ SSF ที่ตอบความต้องการของนักลงทุนได้ เลือกกองทุนที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ แล้วลงทุนเลย” นายวศิน กล่าว

จากข้อมูลของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ผู้ลงทุนมอบความไว้วางใจให้กองทุนบัวหลวงบริหารเงินกองทุน RMF ให้ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) รวม 71,679.64 ล้านบาท สูงที่สุดในอุตสาหกรรม ทั้งยังไว้วางใจให้ดูแลเงินลงทุนในกองทุน SSF ถึง 2,221.12 ล้านบาท อยู่ในอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน

ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน RMF หรือ SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

กองทุนบัวหลวง

1 ธันวาคม 2563

ข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้ลงทุนสามารถรับเครดิตเงินคืน 100 บาทได้ กรณีซื้อหน่วยลงทุนลดหย่อนภาษี RMF/SSF ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ และแลกใช้คะแนน Thank You Rewards ทุก 1,000 คะแนน โดยส่ง SMS ลงทะเบียน พิมพ์ BPNT ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก ส่งมาที่ 4712008 (ค่าบริการครั้งละ 3 บาท) และลงทะเบียนภายในวันเดียวกับวันที่ซื้อหน่วยลงทุน (การลงทะเบียนมีผลต่อทุกรายการในวันที่ลงทะเบียน) พิเศษ สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่กองทุน RMF/SSF และแลกใช้คะแนนสะสม Thank You Rewards เพื่อซื้อหน่วยลงทุนของ บลจ. ที่เปิดบัญชีใหม่ มีสิทธิ์รับ Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท/ท่าน/บลจ. (จำกัดมูลค่าสูงสุด 100 บาท/ท่าน/บลจ. และจำกัด 1,000 สิทธิ์/เดือน)

 

เงื่อนไขการลงทุนใน RMF – SSF

การลงทุนใน RMF ลงทุนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปีลงทุน (ห้ามระงับการซื้อหน่วยลงทุนเกินกว่า 1 ปีติดต่อกันทั้งที่ยังมีเงินได้) นอกจากนี้ ต้องถือครองหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปีบริบูรณ์ นับจากวันที่ซื้อครั้งแรกและต้องถือหน่วยลงทุน จนผู้ลงทุนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เพื่อให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกำไรส่วนเกินทุน (Capital Gains)

ส่วนการลงทุนใน SSF ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี

ทั้งนี้ เมื่อนับรวมการลงทุนใน RMF SSF เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ประกันแบบบำนาญ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท