ไปต่อหรือพอแค่นี้กับกองทุนรวม RMF

ไปต่อหรือพอแค่นี้กับกองทุนรวม RMF

โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP®

ใกล้ปลายปีเข้ามาเต็มที หลายคนคิดกันแล้วค่ะว่า ปีนี้จะไปต่อกันไหวมั้ยกับกองทุนรวม RMF เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางครอบครัว และความไม่แน่นอนในอาชีพการงานของตัวเอง รวมไปถึงคนในครอบครัวด้วย ขอให้คำแนะนำดังนี้ค่ะ

  • เคยไหว และยังไหวอยู่

หลายคนเริ่มเอ๊ะ แล้วเรายังเป็นแบบนี้อยู่รึเปล่านะ มีข้อสังเกตอย่างนี้ค่ะ เคยไหวและยังไหวอยู่ คือคนที่เคยลงทุนในกองทุนรวม RMF อย่างต่อเนื่องและปีนี้ยังมีรายได้ต่อเนื่อง แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ต่อไป ซึ่งในปี 2563 นี้ สามารถลงทุนในกองทุนรวม RMF ได้มากขึ้นถึง 30% ของเงินได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 500,000 บาทเหมือนเดิม หากใครคิดว่าต่อไปจะมีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นหรือรายได้ลดลง ก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนเต็มสิทธิที่ได้รับก็ได้ ต้องดูความสามารถในการหารายได้ของเรา ภาระค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้ด้วย

หากคิดว่าจะลดทอนการลงทุนลงก็สามารถทำได้  เพราะในปีนี้ กองทุนรวม RMF ไม่มีกำหนดการลงทุนขั้นต่ำอีกต่อไป เราก็ลงทุนเพื่อสะสมไว้เป็นเงินสำหรับเกษียณ และลดหย่อนตามส่วน เช่น ใครที่เสียภาษีในอัตรา 25% ก็ดูว่า เราสามารถลงทุนในกองทุนรวม RMF ได้เท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น รายได้ทั้งปี 1.5 ล้านบาท ลงทุนได้ 450,000 บาทเต็มสิทธิ หักค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อน หักค่าเบี้ยประกันชีวิต แต่เราอาจจะลงทุนเพียง 240,000 เพื่อปรับลดฐานภาษีจากฐาน 25% เป็น 20% ก็จะช่วยให้ได้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ลดลงด้วยค่ะ

  • เคยไหว แต่ใกล้จอด

ทีนี้เรามาดูแบบต่อไปค่ะ เคยไหว แต่ใกล้จอด กลุ่มนี้ก็จะเป็นคนเคยลงทุนในกองทุนรวม RMF ในปีก่อนๆ ปีนี้ยังไหว แต่ปีหน้าอาจจะจอด ไม่ใช่จอดรถไว้ที่บ้านนะคะ กลุ่มนี้แนะนำว่าอย่าเพิ่งท้อแท้ใจไป ในส่วนของปีนี้มีเงินได้มา แนะนำให้ลงทุนต่อเนื่อง แต่อาจจะลดสัดส่วนการลงทุนลง เท่าที่เราสามารถลงทุนได้ เพื่อรักษาสิทธิการลงทุนในกองทุนรวม RMF ต่อไป ส่วนใครที่เสียภาษีในปีนี้เยอะเพราะได้เงินได้สุดท้ายมาก็ลงทุนมากขึ้นได้

ในส่วนของปีหน้า หากไม่มีเงินได้อีกต่อไป ยังคงแนะนำให้ลงทุนต่อเนื่อง โดยลงทุนปีละ 500 บาท ก็สามารถทำได้ ย้ำนะคะ 500 บาทก็ทำได้ เพราะตอนนี้ไม่มีเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำที่ 3% ของเงินได้หรือ 5,000 บาท แล้ว แต่ที่ยังต้องลงทุน เพราะมีเงื่อนไขการลงทุนต่อเนื่องทุกปี ห้ามหยุดติดต่อกัน 2 ปี เพื่อให้เงินที่เราตั้งใจสะสมอยู่กับเราจนถึงช่วงเกษียณ หรืออายุ 55 ปีขึ้นไปนั่นเอง

  • จอดสนิท

มาถึงกลุ่มที่ จอดสนิท คิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด งานที่ทำก็หายไป เงินที่เคยได้ก็หายหมด หดหายไป จำเป็นต้องนำเงินที่มีในกองทุนรวม RMF มาใช้ในช่วงนี้ แนะนำให้พิจารณาจากเงินก้อนอื่นๆ ที่มีก่อน แต่ถ้าไม่มีจริงๆ จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้แล้ว ก็สามารถขายคืนได้ แต่อย่าลืมยื่นคืนภาษี 5 ปีสุดท้ายที่ได้รับการลดหย่อนภาษีให้กรมกรมสรรพากรด้วย

ใครที่ขายคืนปี 2563 ติดต่อยื่นภาษีใหม่ภายใน 31 มีนาคม 2564 ส่วนกำไรที่ได้รับจากการขายกองทุนรวม RMF ต้องดูด้วยว่าเราลงทุนมาแล้วกี่ปี หากมีการลงทุนมาแล้ว 5 ปีขึ้นไป จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นเงินได้ แต่ถ้าหากใครที่เพิ่งลงทุนในกองทุนรวม RMF ได้ไม่นานแล้วจำเป็นต้องขาย ก็ต้องนำกำไรที่ได้มารวมคำนวณเป็นเงินได้ในปีที่ขายคืนด้วย

สุดท้าย ท้ายสุด ไม่ว่าจะกลุ่มไหน ไม่ว่าสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาจะเป็นยังไง ขอให้เรามีสติ คิดให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ หากไม่มั่นใจแนะนำให้ปรึกษาผู้รู้ก่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นค่ะ ทุกอย่างมีทางออกเสมอนะคะ