เจาะจุดเด่นกองทุนหุ้นต่างประเทศ theme ต่างๆ ของกองทุนบัวหลวง

เจาะจุดเด่นกองทุนหุ้นต่างประเทศ theme ต่างๆ ของกองทุนบัวหลวง

สรุปความสัมภาษณ์ เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

ปัจจุบันกองทุนที่ลงทุนตาม theme มีหลากหลายให้เลือก ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงจุดเด่นของกองทุนแต่ละ theme ของกองทุนบัวหลวงว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มกันที่ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี  (B-INNOTECH) เป็นกองทุนที่ระบุชัดว่าเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาจจะเป็นเทคโนโลยีในการผลิตสินค้า เทคโนโลยีที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังกิจการต่างๆ เป็นกองทุนที่เน้นเฉพาะหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนั้นจะมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนหุ้นทั่วไป เนื่องจากเน้นอุตสาหกรรมเดียว ไม่ได้มีการกระจายไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ นัก

สำหรับ B-INNOTECH ไปลงทุนอยู่ในกองทุนหลัก ซึ่งผู้จัดการกองทุนนั้นมองเห็นประโยชน์และการเติบโตของเทคโนโลยีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ หรือระบบต่างๆ โดยเขามี 3-4 มุมมองที่น่าสนใจ อย่างแรกคือ ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งมองว่าการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้านี้จะเป็นประเด็นสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลง พลิกโฉม จะมีการเติบโตไปอีกมาก จึงให้น้ำหนักกับการลงทุนในส่วนนี้

มุมมองต่อมาคือ การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับระบบออนไลน์ใหม่ๆ เช่น เครือข่าย 5G อาจจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่นำเสนอให้เราในปัจจุบัน หรืออาจจะเป็นระบบเบื้องหลังที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ระบบฐานข้อมูล เขาก็จะไปลงทุนในระบบเหล่านั้น

อีกมุมมองหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ไฟฟ้า 5G เทคโนโลยีใหม่ๆ อุปกรณ์ใหม่ๆ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตได้หมด สิ่งเหล่านี้จะมีความจำเป็นต้องใช้ชิปเซมิคอนดักเตอร์ ดังนั้นกิจการเซมิคอนดักเตอร์ ก็จะเป็นอีกหนึ่งกิจการที่ไม่ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ต้องมีตัวนี้พัฒนาเพื่อนำเสนอ ดังนั้นกองทุนหลักเขาก็จะเข้าไปลงทุนในกิจการเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากเขาให้ความสำคัญเรื่องการเติบโตในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่ากองทุนหลักสนใจแต่ธุรกิจเทคโนโลยีที่เป็นต้นน้ำเท่านั้น ธุรกิจปลายน้ำก็มีเช่นกัน เช่น เฟซบุ๊ก ก็จะเป็นส่วนปลายน้ำที่เราสัมผัสได้ นอกจากนี้กองทุนก็ไม่ได้ลงทุนโดยมองระยะยาวเพียงอย่างเดียว แต่ก็จะมีส่วนที่เป็นโอกาสในปัจจุบันด้วย เช่น ในช่วงโควิดซึ่งจะมีบางอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวไป เช่น แอปพลิเคชันการจองที่พัก โรงแรม เมื่อโควิดเริ่มคลี่คลาย กองทุนหลักก็เชื่อว่า คนเราจะกลับมาท่องเที่ยว มาใช้บริการต่างๆ ดังนั้น กองทุนหลักก็จะมองการกลับเข้าไปลงทุนในหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจองต่างๆ ด้วย

กองทุนตาม theme ต่อมาคือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ (B-GTO) ไม่ได้เน้นไปที่อุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งเลย แต่มองหาบริษัทใดก็ได้ที่ใช้นวัตกรรมในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ทำให้ตนเองมีการเจริญเติบโต มีการขยายรายได้ ลดต้นทุนต่างๆ ทุกบริษัทที่ใช้นวัตกรรมต่างๆ พัฒนา เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งในส่วนที่เราเห็นกันอยู่ หรือนวัตกรรมที่ใช้ในระบบหลังบ้าน B-GTO ก็ลงทุนได้ทั้งหมด โดยรวมแล้ว B-GTO จะกระจายลงทุนได้กว้างกว่า

สำหรับกองทุนตาม theme ถัดมาก็คือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) กองทุนนี้เป็น theme สุขภาพ เป็นเรื่องของการค้นคว้ายาใหม่ๆ วิวัฒนาการเครื่องมือทางการแพทย์ใหม่เป็นต้น ฟังดูก็คล้ายๆ กับเรื่องนวัตกรรม แต่จริงๆ แล้วการลงทุนในกลุ่มสุขภาพมีมากกว่านั้น เพราะครอบคลุมถึงสถานบริการทางการแพทย์ เนื่องจากคนให้ความสนใจดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ท่ามกลางแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น อายุเฉลี่ยของประชากรจะสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่ไทย แม้จะเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่ก็เข้าไปจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเช่นกัน ดังนั้นก็จะเห็นชัดเจนว่า มีความต้องการทางการแพทย์เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กองทุนบัวหลวงยังมีการลงทุนตาม theme อีกกอง คือ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) ซึ่งเราจะมองไปถึงอนาคตว่าคนรุ่นใหม่จะเติบโตไปอย่างไร พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างไร แล้วธุรกิจอะไรที่สอดคล้องการดำเนินชีวิตของพวกเขา โดย B-FUTURE สามารถลงทุนได้ทั้งผ่านกองทุนรวมหรือหุ้นรายตัว

ปัจจุบันกองทุน B-FUTURE มีมุมมองการลงทุนผ่านกองทุนที่สอดคล้องกับ 3 theme ได้แก่ theme พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นไปที่ประเทศจีน ซึ่งมีพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดและก้าวกระโดด ดังนั้น B-FUTURE จึงเลือกลงทุนผ่านกองทุนที่ลงทุนในการบริโภคของผู้บริโภคชาวจีน

theme ต่อมาคือเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยเราจะเน้นลงทุนผ่านกองทุนที่มุ่งลงทุนในเอไอ ระบบการเรียนรู้ต่างๆ ด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าจะเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ในอนาคตได้ ซึ่งรอบปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนกับกองทุนเป็นอย่างดี ส่วน theme ที่ 3 คือ เทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) เนื่องจากเห็นการพัฒนาของระบบสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งอาจไม่ใช่สถาบันการเงินเท่านั้น ทุกวันนี้เราได้ยินคำว่า กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (วอลเล็ท) บ่อยมาก การเติมเงินต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการผ่านธนาคาร แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และยังไม่นับรวมเรื่องระบบการลงทุนใหม่ๆ ที่มีมากมาย ดังนั้นจึงเชื่อว่าฟินเทคจะเป็น theme ที่มาแรง ทำให้ B-FUTURE เลือก theme นี้เป็นส่วนหนึ่งในการลงทุน

โดยรวมแล้วกองทุนบัวหลวงมีวางผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคได้เลือกลงทุนตาม theme ที่สนใจ ซึ่งกองทุนที่กองทุนบัวหลวงเลือกมานำเสนอจะไม่ใช่การลงทุนตามกระแสแฟชั่น หรือเป็นความนิยมแบบวูบวาบ แต่จะเลือกเป็น theme ระยะยาว เพราะการลงทุนในกองทุนรวมเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเข้าออกบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าไม่แน่ใจว่าจะจัดสัดส่วนลงทุนในกองทุนตาม theme ต่างๆ อย่างไร ก็สามารถเลือกลงทุนผ่าน กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ได้ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 3 กอง ตามระดับความเสี่ยงและโอกาสรับผลตอบแทนที่ต่างกัน คือ กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 25 (BMAPS25) กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 55 (BMAPS55) และกองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 100 (BMAPS100)