กองทุนหลักของ B-FINTECH ลงทุนในหุ้นอะไรบ้าง

กองทุนหลักของ B-FINTECH ลงทุนในหุ้นอะไรบ้าง

กองทุนบัวหลวงเปิดขาย IPO กองทุนเปิดบัวหลวงฟินเทค (ฺB-FINTECH) 10-16 มิถุนายน นี้ กองทุนนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากลงทุนในธุรกิจที่ส่งผลต่อระบบการเงินทั่วโลก ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหุ้นที่อยู่ในพอร์ตของกองทุน BGF Fintech Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-FINTECH โดย คุณธณาพล อิทธินิธิภัค ผู้อำนวยการกลุ่มลูกค้าบุคคลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ BlackRock จะมาเล่ารายละเอียดเหล่านี้ให้ฟัง

  • กองทุน BGF FinTech Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-FINTECH มีหลักการคัดเลือกหุ้นอย่างไร

กองทุน BGF Fintech Fund จะมองหาบริษัทที่มีขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีแนวโน้มเติบโตเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอนาคต ทำให้กองทุนฟินเทคนี้มีการลงทุนในบริษัทที่ทับซ้อนกับกองทุนเทคโนโลยีทั่วๆ ไปน้อยมาก ถ้าเทียบกับกองทุนเทคโนโลยีอื่นๆ อย่างเช่นของกองทุนบัวหลวง ก็พบว่า มีการลงทุนในหุ้น 3 บริษัทที่เหมือนกัน และมีสัดส่วนเพียงแค่ 7% ของพอร์ตลงทุนเท่านั้นที่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการลงทุนในฟินเทคจะเป็นการช่วยเพิ่มขอบเขตการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่เห็นโอกาสการลงทุนในเทคโนโลยีให้มีความหลากหลายมากขึ้น

  • กองทุนไปลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็ก รวมถึงหุ้น IPO จะมีความน่ากังวลเรื่องสภาพคล่องหรือไม่

กองทุนได้ใช้ระบบ Aladdin ในการทำ Stress Testing เพื่อเลี่ยงธุรกิจที่อ่อนแอและอาจโดนผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจภายนอกได้ง่าย โดยในระบบจัดการกองทุนที่ทันสมัยของ BlackRock นี้ ได้รวบรวมการเคลื่อนไหวของข้อมูลตราสารทุกประเภทเอาไว้ ทำให้เราสามารถจำลองเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้น เช่น วิกฤติแฮมเบอเกอร์ (subprime crisis) ในปี 2008 หรือจะเป็นวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป (european debt crisis) ในปี 2011 หรือสงครามการค้า (Trade Tensions) ในปี 2018

ทั้งนี้ ก็เพื่อประเมินว่า ถ้าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอีกจะกระทบกับกำไรของบริษัทที่ลงทุนอย่างไรบ้าง จะกระทบกับสภาพคล่องการซื้อขายในหุ้นบริษัทที่เราลงทุนแค่ไหน เพื่อทำให้มั่นใจว่าเราจะไม่เจอปัญหาสภาพคล่อง หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

สำหรับการซื้อหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เนื่องจาก BlackRock เป็นบริษัทใหญ่ มีเครือข่ายครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและโอกาสการลงทุนในหุ้น IPO ใหม่ได้มากกว่าคนอื่น โดยเราจะเน้นไปที่บริษัทที่มีโครงสร้างธุรกิจแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และมีโอกาสเติบโตสูง

  • อยากให้ยกตัวอย่างประเภทหุ้นฟินเทคที่ไปลงทุน

ในภาพรวม เราเห็นธุรกิจต่างๆ ได้ประยุกต์ใช้ฟินเทคในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยกองทุน BGF Fintech Fund ของเรา ก็จะเข้าไปลงทุนในกลุ่มฟินเทค 6 Theme หลัก ได้แก่

  1. ระบบการชำระเงิน ที่เราเห็นคนหันมาใช้การชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นแทนการใช้เงินสด
  2. ธนาคารดิจิทัล ซึ่งเราจะเห็นธุรกรรมการเงินที่ทำผ่านธนาคารดิจิทัลเพิ่มขึ้น และมีการลดจำนวนสาขาลงอย่างต่อเนื่อง
  3. สินเชื่อผู้บริโภค ที่มีการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาอำนวยความสะดวกในการกู้ยืมเงิน ระหว่างผู้บริโภคและบริษัทให้สินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น
  4. การลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดเงินตลาดทุนได้หลากหลายขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลงผ่านระบบดิจิทัล อินเวสเม้นท์
  5. ประกัน มีการใช้สัญญาอัจฉริยะ หรือ smart contract โดยสัญญาประกันต่างๆ สามารถตรวจสอบและเคลมได้ผ่านระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วยลดเวลาและขั้นตอนในการดำเนินงานลง
  6. ซอฟต์แวร์และ Outsourcing Solutions เนื่องจากธนาคารต้องเตรียมเม็ดเงินลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อพัฒนาระบบให้รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล

ตัวอย่างหุ้นที่กองทุน BGF FinTech Fund ลงทุน

หนึ่งในบริษัทที่เราลงทุนก็คือ Mastercard เป็นบริษัทที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่ง Mastercard เป็นผู้นำในตลาดการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัล โดย Mastercard มีเครือข่ายร้านค้ากว่า 45 ล้านร้านค้าทั่วโลก ที่มีการทำธุรกรรมผ่านบริการของ Mastercard ในแต่ละปีมีคนใช้บริการผ่าน Mastercard ถึง 4.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในธุรกิจการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัล เราจะเห็นว่ามีปริมาณเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรวมทั้งหมด 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2018 ตอนนี้เติบโตขึ้นมากว่า 10 เท่า เป็น 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 และคาดว่าจะเติบโตต่อไปถึง 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022

นอกจากเรื่องระบบการชำระเงินแล้ว Mastercard ยังได้เปรียบเรื่องฐานข้อมูลของผู้บริโภคที่บริษัทสามารถนำมาใช้ต่อยอดในการทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีต่อไปได้ด้วย

ตัวอย่างต่อมาคือ บริษัทที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ที่หันมาทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารดิจิทัลมากขึ้น หนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์ ก็คือ Axos financial เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2000 หรือกว่า 21 ปีแล้ว ในฐานะที่เป็นธนาคารดิจิทัล ที่ให้บริการออนไลน์ 100% และบริษัทยังได้ขยายความเป็นธนาคารดิจิทัล โดยในปี 2019 ได้เข้าซื้อแพลตฟอร์ม Robo-Advisory และตั้งชื่อใหม่เป็น Axos Invest เพื่อให้บริการแนะนำการจัดการสินทรัพย์ลงทุนทางออนไลน์ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มทั่วไปมากขึ้น โดยบริษัทมีกำไรอย่างต่อหุ้นเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2014 คิดเป็นอัตราการเติบโตแบบทบต้นประมาณ 21% ต่อปี ต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ส่วนตัวอย่างต่อมาจะอยู่ใน Theme ซอฟต์แวร์และ Outsourcing Solutions เป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาระบบธนาคารให้รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล โดยหนึ่งในบริษัทที่กองทุนเข้าไปลงทุน คือ Temenos เป็นบริษัทที่พัฒนาและออกแบบระบบซอฟต์แวร์ให้กับธนาคาร โดยมีฐานลูกค้ากว่า 3,000 รายทั่วโลก ซึ่งธนาคารขนาดใหญ่ 41 แห่ง จาก 50 แห่งทั่วโลกต่างก็ใช้ระบบของ Temenos ในการดำเนินธุรกิจ

ถัดมาเป็นตัวอย่างของแพลตฟอร์มการลงทุน โดยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้นักลงทุนในปัจจุบันสามารถลงทุนในตราสารที่หลากหลายด้วยต้นทุนที่ต่ำลงมาก หนึ่งในตัวอย่างของบริษัทที่ไปลงทุนชื่อว่า Investimentos เป็นบริษัทสัญชาติบราซิล ให้บริการด้านการลงทุน ให้คำแนะนำการลงทุน สอนลงทุนออนไลน์ จัดจำหน่ายกองทุน ประกัน ตราสารหนี้ หุ้น กองทุนส่วนบุคคล และยังมีผลิตภัณฑ์การลงทุนอีกมากมายผ่านแพลตฟอร์ม โดยบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่กว่า 1.5 ล้านราย ภายใต้สินทรัพย์ที่บริษัทดูแลกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าสินทรัพย์นี้มีการเติบโตที่สูงในช่วงที่ผ่านมา โดยเติบโตเกือบ 20 เท่าจากปี 2014 หรือคิดเป็นการเติบโตทบต้นถึง 68% ต่อปี ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทเติบโตจากเพียง 1% ในปี 2013 ขึ้นมาเป็น 15.4% ในปี 2019

เหล่านี้เป็นเพียงบางตัวอย่างที่กองทุน BGF Fintech Fund เลือกลงทุน และทำให้กองทุนสามารถสร้างความแตกต่างและทำผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา

ด้วยสไตล์การบริหารกองทุนของ BlackRock ทำให้ BlackRock มีความโดดเด่น ทั้งในเรื่องการเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต มีการทบทวน ติดตามและปรับน้ำหนักการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ BlackRock เป็นบริษัทจัดการที่มีขนาดใหญ่ จึงเข้าถึงข้อมูลทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็ทำให้ กองทุนบัวหลวงเลือกให้กองทุน B-FINTECH ไปลงทุนผ่านหน่วยลงทุนกองทุน BGF Fintech Fund ของ BlackRock นั่นเอง

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนใน B-FINTECH กองทุนนี้เปิดขาย IPO วันที่ 10-16 มิถุนายน นี้ โดยลูกค้ากองทุนบัวหลวง สามารถซื้อในช่วง IPO ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking ได้ เวลา 8.30 – 16.00 น. หรือติดต่อผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนนี้ได้ที่ https://www.bblam.co.th/products/mutual-funds/foreign-investment-fund/b-fintech/b-fintech#content

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน