กองทุนบัวหลวงจ่ายปันผล B-CHINE-EQ 14 ก.ค. นี้ ชูจุดเด่นสไตล์บริหารกองทุนหุ้นจีนที่แตกต่าง สร้างผลงานที่โดดเด่น

  • กองทุนบัวหลวงถือฤกษ์ดีเริ่มต้นครึ่งปีหลังจ่ายเงินปันผล B-CHINE-EQ ครั้งที่ 6 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วยลงทุน วันที่ 14 ก.ค. นี้ หลังทำผลงานโดดเด่นด้วยสไตล์บริหารกองทุนที่แตกต่าง แนะนักลงทุนเติมหุ้นจีนเข้าพอร์ตลงทุนระยะยาวได้   เพราะมูลค่าปรับมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ   ขณะที่แนวโน้มข้างหน้ายังดูดี    โดยสามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมของกองทุนบัวหลวง ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เพื่อซื้อได้แล้ววันนี้

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงประกาศจ่ายเงินปันผล กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) ซึ่งเตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 6 สำหรับผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 – 30 มิถุนายน 2564 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เพื่อจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนตามกำหนดในวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นี้  และเมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงการประกาศครั้งนี้ จ่ายเงินปันผลไปแล้วรวม 1.45 บาทต่อหน่วยลงทุน

สำหรับ B-CHINE-EQ ถือเป็นกองทุนหุ้นจีนที่มีรูปแบบการบริหารจัดการค่อนข้างโดดเด่นและแตกต่างไปจากตลาด เพราะสามารถลงทุนหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ทั่วโลก (All China Strategy) ทั้งยังผสมผสานพอร์ตการลงทุนได้อย่างลงตัว ด้วยการมอบหมายให้ อลิอันซ์ โกลบอล อินเวสเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก (Allianz Global Investors Asia Pacific Limited) เป็นผู้รับดำเนินการในต่างประเทศ (Outsourced Fund Manager) คัดเลือกหน่วยลงทุนของกองทุนให้ และส่วนที่เหลือ กองทุนก็มีทีมงานพิจารณาคัดสรรลงทุนหุ้นจีนเองเพิ่มเติม โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกิน 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) จึงสามารถทำผลงานได้ค่อนข้างโดดเด่น และตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่มองเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

จากข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 กองทุน B-CHINE-EQ ทำผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปีอยู่ที่ 51.55% ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 37.12% ขณะที่ผลการดำเนินงาน 3 ปี เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 21.44% ส่วนเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 12.34% และหากนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน B-CHINE-EQ วันที่ 11 มีนาคม 2561 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 กองทุนทำผลการดำเนินงานได้ 16.53% ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 8.03%

ส่วนตัวอย่างหุ้นที่กองทุน B-CHINE-EQ ลงทุนอยู่ ได้แก่ Tencent Holdings Ltd บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีนเจ้าของแอปพลิเคชันชื่อดัง WeChat ที่มีคนใช้มากกว่าพันล้านคนทั่วโลก, TRIP.COM Group Limited บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ของจีนที่ให้บริการจองการเดินทางครบวงจร มีเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวในเครือที่คนจีนและคนทั่วโลกให้การยอมรับ และ Ping An Insurance Group Co of China Ltd ผู้ให้บริการการเงินยักษ์ใหญ่ในจีนที่มีจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจประกันภัย

สำหรับมูลค่าหุ้นจีนปรับมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในขณะที่แนวโน้มข้างหน้าค่อนข้างสดใส หากผู้ลงทุนเชื่อมั่นในแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ว่ามีโอกาสผงาดขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกได้ เนื่องจากจีนมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ชัดเจน โดยเฉพาะการดำเนินนโยบาย Dual Circulation หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนคู่ขนาน เน้นการบริโภคภายในประเทศควบคู่กับการส่งออก ทั้งยังมีความเข้าใจความผันผวนของการลงทุนในหุ้นและรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้  ก็สามารถจัดสรรเงินลงทุนส่วนหนึ่งในพอร์ตมาลงทุนกับ B-CHINE-EQ เพื่อคว้าโอกาสแดนมังกรได้

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถใช้บริการเปิดบัญชีกองทุนรวม ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ  ได้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยบริการดังกล่าว ใช้ได้สำหรับผู้ลงทุนที่ Update หรือ Download โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ Version 3.9.1 ขึ้นไปเท่านั้น

 

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

 

กองทุนบัวหลวง

7 กรกฎาคม 2564