กองทุนบัวหลวงพร้อมขาย IPO B-SIPRMF และ B-SIPSSF วันที่ 26 ต.ค. – 2 พ.ย. นี้ เอาใจนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสเติบโตจากเทรนด์การจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมประหยัดภาษี

กองทุนบัวหลวงพร้อมขาย IPO B-SIPRMF และ B-SIPSSF วันที่ 26 ต.ค. – 2 พ.ย. นี้ เอาใจนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสเติบโตจากเทรนด์การจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมประหยัดภาษี

ข่าวประชาสัมพันธ์

                                                                                     Press Release

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงเตรียมเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-SIPRMF) และกองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืนเพื่อการออม (B-SIPSSF) ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2564 นี้ ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นว่า การลงทุนในธุรกิจที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Sustainability) คำนึงผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิตสินค้าและบริการ รวมถึงธุรกิจพลังงานสะอาด จะช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตให้เงินลงทุนได้ในระยะยาว และยังได้ประหยัดภาษีด้วย

สำหรับการเสนอขายทั้ง 2 กองทุนนี้ เกิดขึ้นจากการที่กองทุนบัวหลวงเปิดตัวกองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก และมีนักลงทุนหลายท่านสอบถามเข้ามาว่า จะมีกองทุนที่มีนโยบายแบบนี้เสนอขายในรูปแบบกองทุนประหยัดภาษีด้วยหรือไม่ กองทุนบัวหลวงจึงพร้อมตอบรับความต้องการของผู้ลงทุน โดยเสนอขายทั้งกองทุน B-SIPRMF และ B-SIPSSF เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เลือกลงทุนตามเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดย B-SIPRMF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสะสมเงินลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปีไว้ เพื่อคาดหวังเงินก้อนสำหรับใช้ในช่วงหลังวัยเกษียณ ส่วน B-SIPSSF เหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายลงทุนวันนี้เพื่อนำเงินก้อนนี้ไว้ใช้เงินในอีก 10 ปีข้างหน้า

นายวศิน กล่าวว่า ทั้ง 2 กองทุนนี้จะมีนโยบายการลงทุนเหมือนกับกองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) คือ เน้นลงทุนในกิจการที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Sustainability) และพลังงานสะอาด โดยเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ ทั้งด้านรายได้ กำไร และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น คำนึงถึงมูลค่าที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าจะได้ลงทุนในบริษัทที่แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมให้โลกได้และให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย หรือที่เรียกว่า “Green and Great Return” โดยจะไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นไปที่การเพิ่มโอกาสให้เงินลงทุนเติบโตในระยะยาว โดยไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนระหว่างทาง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 500 บาท และในระยะแรกไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขาย

“การลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก ซึ่งไม่ได้ร้อนแรงเพียบวูบเดียวแล้วหายไป แต่มีโอกาสเติบโตระยะยาวเหมาะที่จะลงทุนในรูปแบบ RMF และ SSF ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมให้เราได้ลงทุนระยะยาวเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตทั้งสิ้น โดยนอกจากจะช่วยให้ผู้ลงทุนได้เพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีระยะยาวแล้ว ยังทำให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์อีกต่อจากการประหยัดภาษีในปีที่ลงทุนด้วย” นายวศิน กล่าว

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-SIPRMF และ B-SIPSSF หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 0 2674 6488 กด 8 หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี บจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา และ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.30 น. และทำรายการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ Bangkok Bank Mobile Banking ได้ในช่วงเวลา 8.30 – 16.00 น.

 

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน
ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน RMF หรือ SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

กองทุนบัวหลวง
25 ตุลาคม 2564