BTSGIF งดจ่ายปันผลและเงินคืนทุนรอบบัญชี ก.ค.-ก.ย. 2564 รอสะสมจ่ายงวดถัดไป มั่นใจเปิดประเทศหนุนยอดเดินทางฟื้นตัว

BTSGIF งดจ่ายปันผลและเงินคืนทุนรอบบัญชี ก.ค.-ก.ย. 2564 รอสะสมจ่ายงวดถัดไป มั่นใจเปิดประเทศหนุนยอดเดินทางฟื้นตัว

ข่าวประชาสัมพันธ์

                                                                                     Press Release

 

คุณพรชลิต พลอยกระจ่าง

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง    บีทีเอสโกรท    (BTSGIF)     จะงดจ่ายเงินปันผลในรอบระยะเวลาบัญชี ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เนื่องจากมียอดขาดทุนสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 10,374.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการเงินจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนกองทุน

ทั้งนี้ ในรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 กองทุนมีเงินสดจากการดำเนินงาน คิดเป็นมูลค่าต่อหน่วยประมาณ 0.024 บาท ซึ่งกองทุนจะสะสมเพื่อไปจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปของเงินคืนทุนในงวดถัดไป

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564/2565 หรือ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 กองทุน BTSGIF มีรายได้ค่าโดยสาร 334.2 ล้านบาท ลดลง 32.0% จากไตรมาสก่อนหน้า จำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 10.6 ล้านเที่ยวคน ลดลง 34.4% จากไตรมาสก่อน ขณะที่อัตราค่าโดยสารเฉลี่ย อยู่ที่ 31.4 บาทต่อเที่ยวการเดินทาง เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อน รายได้รวมอยู่ที่ 10.1 ล้านบาท ลดลง 93.9% จากไตรมาสก่อน ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิ อยู่ที่ (6.4) ล้านบาท ลดลง 104.3% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 ปี 25464/2565 กองทุนรับรู้กำไรสุทธิจากเงินลงทุน 349.5 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่าเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิตามมูลค่ายุติธรรม เพิ่มขึ้น 350.0 ล้านบาท โดยรายการนี้ไม่ใช่รายการเงินสด แต่มาจากการประมาณการว่ารายได้สุทธิครึ่งปีหลังของปี 2564/2565 จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดที่เหลือเพิ่มขึ้น มากกว่ากระแสเงินสดที่หายไปจากระยะเวลาของอายุสัญญาสัมปทานที่สั้นลง แต่มูลค่านี้ก็ถูกหักลบออกด้วยการบันทึกเงินลงทุนในสถานีเซนต์หลุยส์ 0.5 ล้านบาท โดยมูลค่าเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 อยู่ที่ 45,050.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 44,700.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564

“การที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ประกอบกับจำนวนผู้ฉีดวัคซีนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่นกลับมาดำเนินชีวิตภายใต้วิถีปกติใหม่ (new normal) มากขึ้น ทำให้กองทุนบัวหลวงคาดว่า จำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS จะทยอยกลับมาอย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานในอนาคตฟื้นตัวได้” นายพรชลิต กล่าว

อนึ่ง มูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุนในปัจจุบันจะลดลงตามอายุของสิทธิในรายได้สุทธิตามสัญญาสัมปทานที่จะหมดอายุในปี 2572

 

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

 

 กองทุนบัวหลวง

15 พฤศจิกายน 2564