กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอินเดียมิดแคปเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INDIAMRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอินเดียมิดแคปเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INDIAMRMF)

Highlight

  • ปัจจัยบวกที่สำคัญของตลาดหุ้นอินเดีย มาจากมาตรการทางการคลังที่กระตุ้นเศรษฐกิจ การ IPO ของหุ้นใหม่ และการเปิดเมืองที่มีทิศทางดีขึ้น ในขณะที่แรงกดดันของตลาดหุ้นอินเดีย มาจากปัจจัยการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันซึ่งส่งผลต่อบริษัทจดทะเบียนในทิศทางที่แตกต่างกันไป และประเด็นเรื่องเงินเฟ้อทั่วโลก
  • การประชุม UN Climate Change Conference (COP26) ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอินเดียประกาศว่าอินเดียจะมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการใช้พลังงาน โดยเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด และลดสัดส่วนพลังงานดั้งเดิมลง มีเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2070 
  • โครงสร้างประชากรของอินเดียที่มีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานสูงกว่า 67% สนับสนุนให้การบริโภคมีแนวโน้มเติบโต ธุรกิจการเงินและโครงสร้างพื้นฐาน ยังคงเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่ตลาดโลกมองอินเดียเป็นศูนย์กลางการผลิตนอกเหนือจากจีน ซึ่งภาครัฐให้การสนับสนุนในด้านภาษีและนโยบายอื่นๆ ทำให้บริษัทขนาดกลางและเล็กได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าครัวเรือน ยาและเคมีภัณฑ์

 สถานการณ์โควิดของอินเดียดีขึ้นมาก จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ประมาณ 12,000 ต่อวัน การฉีดวัคซีนอยู่ที่ 4-5 ล้านคนต่อวัน ประชากรผู้ใหญ่กว่า 35% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว และกว่า 78% ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม อัตราการเสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำประมาณ 3%

กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้น ทั้งด้านการเดินทาง การท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอย จนมาอยู่ระดับก่อนการระบาดโควิดครั้งที่สองในอินเดีย

ด้านเงินลงทุนจากต่างชาติ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ยังคงเป็นไหลเข้าสุทธิ USD 444 ล้านเหรียญสหรัฐ และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2 พันล้านเหรียฐสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคม นักลงทุนต่างชาติมีการขายทำกำไรในหุ้นอินเดียทำให้มียอดสุทธิไหลออก 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ตั้งแต่ต้นปีเงินจากต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่เดือนตุลาคมนักลงทุนในประเทศยังคงซื้อสุทธิ 597 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้รูปแบบการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยจะซื้อผ่านกองทุนรวมและบริษัทประกันมากขึ้นอย่างชัดเจน

ตลาดหุ้นอินเดียให้ผลตอบแทนที่ดี ตั้งแต่ต้นปีหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กราคาปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ จนกระทั่งเดือนสิงหาคมต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หุ้นขนาดใหญ่ราคาปรับตัวขึ้นมามากกว่าหุ้นขนาดกลางและเล็ก

ปัจจัยบวกที่สำคัญของตลาดหุ้นอินเดีย มาจากมาตรการทางการคลังที่กระตุ้นเศรษฐกิจ การ IPO ของหุ้นใหม่ และการเปิดเมืองที่มีทิศทางดีขึ้น ในขณะที่แรงกดดันของตลาดหุ้นอินเดีย มาจากปัจจัยการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันซึ่งส่งผลต่อบริษัทจดทะเบียนในทิศทางที่แตกต่างกันไปและประเด็นเรื่องเงินเฟ้อทั่วโลก

การประชุม UN Climate Change Conference (COP26) ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอินเดียประกาศว่าอินเดียจะมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการใช้พลังงาน โดยเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด และลดสัดส่วนพลังงานดั้งเดิมลง มีเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2070

พอร์ตการลงทุน

  • ผู้จัดการกองทุนให้น้ำหนักกับกลุ่มการเงิน วัสดุอุปกรณ์ และสินค้าจำเป็น มากกว่าดัชนีชี้วัด ในขณะที่ให้น้ำหนักกับกลุ่มสาธารณูปโภค และสินค้าฟุ่มเฟือย น้อยกว่าดัชนีชี้วัด
  • โครงสร้างประชากรของอินเดียที่มีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานสูงกว่า 67% สนับสนุนให้การบริโภคมีแนวโน้มเติบโต ธุรกิจการเงินและโครงสร้างพื้นฐาน ยังคงเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่ตลาดโลกมองอินเดียเป็นศูนย์กลางการผลิตนอกเหนือจากจีน ซึ่งภาครัฐให้การสนับสนุนในด้านภาษีและนโยบายอื่นๆ ทำให้บริษัทขนาดกลางและเล็กได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าครัวเรือน ยาและเคมีภัณฑ์

ผลการดำเนินงานของกองทุน B-INDIAMRMF ณ 29 ตุลาคม 2564

ข้อมูลกองทุนหลัก Kotak Funds – India Midcap Fund  ณ 29 ตุลาคม 2564

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต