เศรษฐีจีนย้ายเงินไปอยู่ในสิงคโปร์มากขึ้น หลังรัฐบาลมีการปราบปรามต่างๆ มากขึ้น

เศรษฐีจีนย้ายเงินไปอยู่ในสิงคโปร์มากขึ้น หลังรัฐบาลมีการปราบปรามต่างๆ มากขึ้น

กลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่งในจีนจำนวนมากขึ้นมีความกังวลเกี่ยวกับการเก็บเงินไว้ในจีนแผ่นดินใหญ่ และบางคนมองว่าสิงคโปร์เป็นเหมือนหลุมหลบภัย

นับตั้งแต่มีการประท้วงทำให้เศรษฐกิจฮ่องกงหยุดชะงักในปี 2019 เศรษฐีจีนก็มองหาพื้นที่ทางเลือกที่จะเก็บความมั่งคั่งไว้ ซึ่งสิงคโปร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าน่าดึงดูดใจ เพราะมีชุมชนที่มีคนพูดภาษาจีนกลางอยู่จำนวนมาก และยังไม่เหมือนอีกหลายๆ ประเทศ ตรงที่ ไม่มีภาษีความมั่งคั่ง

แนวโน้มความสนใจสิงคโปร์นั้นเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังจากจีนปราบปรามอุตสาหกรรมการศึกษา และออกมาพูดถึง common prosperity หรือความเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ที่เน้นเรื่องการมีความมั่งคั่งปานกลางสำหรับทุกคน มากกว่าที่จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ทั้งนี้ CNBC สัมภาษณ์ข้อมูลจากตัวแทนบริษัทในสิงคโปร์ที่ช่วยเหลือให้คนจีนที่มีความมั่งคั่งเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ของตัวเองมายังเมืองนี้ผ่านโครงสร้างสำนักงานธุรกิจครอบครัว โดยพบว่า สำนักงานธุรกิจครอบครัวจะเป็นบริษัทเอกชนที่ดูแลเรื่องการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งให้กับครอบครัวของเศรษฐี ซึ่งในสิงคโปร์ การจัดตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวจะต้องมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Iris Xu ผู้ก่อตั้ง Jenga บริษัทบัญชีและบริการองค์กร กล่าวว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีการสอบถามเกี่ยวกับการตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเท่าตัว หลักๆ เป็นคำถามที่มาจากคนจีนหรือกลุ่มคนอพยกที่มาจากจีน โดยขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 50 ราย ที่เปิดสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์ โดยทุกรายมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : CNBC