แพลนเที่ยวได้สบายหายห่วงด้วยแผนลงทุน

แพลนเที่ยวได้สบายหายห่วงด้วยแผนลงทุน

โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP®

ใกล้ถึงช่วงสงกรานต์ เทศกาลปีใหม่ไทย หลายคนก็คงคิดถึงเรื่องเที่ยว เพราะปีที่ผ่านๆ มาก่อนโควิด-19 ต้องได้เที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ

ที่เที่ยวช่วงนี้เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว โดยการไปเที่ยวของบางคนอาจเป็นการกลับไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วถือโอกาสเที่ยวไปด้วย หรือชวนผู้หลักผู้ใหญ่ไปเที่ยวด้วยกันในช่วงนี้

ส่วนปีนี้ แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังอยู่กับเรา ก็ยังเที่ยวได้แบบคงมาตรการของเราเองให้ดี หน้ากากอนามัยต้องใส่อยู่เสมอ อย่าได้ไว้ใจแม้แต่ญาติสนิทมิตรสหายที่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา

และสำหรับการท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้น เชื่อว่าหลายคนอยากไป เพราะตอนนี้หลายประเทศก็เริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจยังไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย ก็เตรียมตัววางแผนกันไว้ก่อนล่วงหน้าซัก 1 ปี อย่างเช่น ใครที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็เริ่มต้นวางแผนกันช่วงนี้แล้วปีหน้าหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ก็จะได้เดินทางกันได้อย่างมั่นใจ

โดยเริ่มจากจุดหมายปลายทางที่เราต้องการไป เช่น ญี่ปุ่น จากนั้นก็ต้องเตรียมตัวเรื่องการใช้จ่ายที่เราต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าตั๋วเครื่องบิน ประมาณ 25,000 บาท ค่าเดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นโดยรถไฟ JR Rail Pass ซึ่งมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 7 วัน หากเราไปเพียงแค่ 3-4 วัน ก็อาจจะไม่คุ้มค่า การวางแผนทริปนี้จึงเป็นการวางแผนเที่ยว 7 วัน 6 คืน เพื่อให้ท่องเที่ยวได้เต็มที่หลังจากหยุดพักมานาน ค่าที่พัก คืนละประมาณ 3,000 บาท 6 คืนก็ 18,000 บาท

หากเรามีเพื่อนเที่ยวก็อาจจะแชร์ค่าที่พักร่วมกับเพื่อนก็จะช่วยให้ถูกลงได้ ค่าอาหารเฉลี่ยมื้อละ 500 บาท วันละ 1,500 บาท 7 วันก็ 10,500 บาท นอกจากนี้ ยังต้องเผื่อสำหรับค่าช้อปปิ้ง ด้วย เพราะที่ญี่ปุ่นมีของน่ารัก น่าใช้ มากมายเลยทีเดียว จะใช้เองก็ดี จะฝากให้ใคร ใครก็ชอบ เผื่อสำหรับค่าช้อป ไว้ 10,000 บาท เบ็ดเสร็จรวมๆ แล้วทริปนี้ประมาณ 76,500 บาท

เมื่อเราได้ตัวเลขที่คาดว่าจะใช้ท่องเที่ยวในช่วง 1 ปีข้างหน้าแล้ว จากนั้น เราเริ่มวางแผนกันเลยค่ะ ถ้าจะออมเงินอย่างเดียว ก็คำนวณง่ายๆ โดยการนำ 76,500/12 เดือน เท่ากับเราต้องออมเงินเดือนละ 6,375 บาท หรือต้องเก็บออมวันละ 212.50 บาท เพื่ออีก 1 ปี จะได้ทำตามเป้าหมายได้ ซึ่งเงินที่เราต้องการเก็บไว้สำหรับเป้าหมาย แนะนำให้กันแยกออกมา อาจจะนำมาลงทุนต่อในกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV) ที่มีสภาพคล่องสูง ขายคืนได้ทุกวันทำการ และมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ ก็สามารถทำได้

หรือหากเรามีเงินตั้งต้นประมาณ 15,000 บาท ลงทุนทุกเดือนเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 12 เดือน และหาสินทรัพย์ลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนประมาณ 3.5% ต่อปี เมื่อครบปีก็คาดว่าจะมีเงิน 76,500 บาทได้เช่นกัน
ซึ่งการลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนประมาณ 3.5% ต่อปี จะเป็นการลงทุนที่ผสมผสานกัน แน่นอนค่ะว่าต้องมีการผสมหุ้นเข้าไปด้วย

ส่วนกองทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนประมาณ 3.5% นั้น อย่างเช่น กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) ซึ่งเป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น สามารถลงทุนในต่างประเทศได้สูงถึง 79% มีการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 3 เดือน ซึ่งเมื่อเราได้เงินคืนมาบางส่วนก็นำไปลงทุนต่อได้

หรือกองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์25 (BMAPS25) ที่เป็นกองทุนหน่วยลงทุน มีการกระจายการลงทุนอย่างหลากหลาย โดยลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง เช่น หุ้น ไม่เกิน 25% ก็เป็นอีก 1 กองทุนที่น่าสนใจ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นด้วยก็อาจทำให้มีความผันผวนระหว่างการลงทุนด้วยเช่นกัน

วางแผนเตรียมแพลนเที่ยวกันให้ดี และวางแผนลงทุนให้เหมาะสม ก็จะช่วยให้เรื่องเที่ยวเป็นไปได้ไม่ยาก และอย่าลืมดูแลตัวเองให้ปลอดภัย ห่างไกลจากโควิด-19 เพื่อให้ได้ท่องเที่ยวอย่างอุ่นใจ ชาร์จพลังใหม่ๆ เข้ามา ให้มีพลังในการใช้ชีวิต และการทำงานของเราต่อไปค่ะ