B-CHINE-EQ product special

B-CHINE-EQ product special

31 วันทำการหลัง B-CHINE-EQ ปิด IPO และจดทะเบียน วันที่ 9 มี.ค.18

มี Key questions and answers มุมมองต่อ Headline news และหุ้นในระดับพอร์ตโพลิโอ จาก Allianz All China Fund ซึ่งทำหน้าที่บริหารการลงทุนในต่างประเทศ (Outsource Fund Manager) อย่างไร ไปดูกันเลย !!!

“What would be key catalyst and risk from now on?”

1. สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (Trade war) ส่งผลกระทบหรือไม่

มองว่าส่งเกิด Near term pain ในไตรมาสสอง และตลาดน่าจะฟื้นตัวราวปลาย พ.ค. ถึงต้นไตรมาสสาม เหตุจาก

  • ตั้งแต่ต้นปี YTD หุ้นในพอร์ตลงทุน Contribute EPS Growth ได้ตามแผนราว +13%, ระดับ Valuation ลดลง
  • เชื่อว่าไม่น่าจะมี Negative surprise หลัง Trade war ต่อจากนี้ หากสหรัฐฯเปิดโอกาสให้จีนเข้ามาเจรจาภายใน 30 วัน จีนจะใช้ช่องทางดังกล่าว พัฒนาการต่อจากนี้มองว่าเกิดกรณี “ประณีประนอม” และเมื่อจำแนกตาม Sector พบว่ามีทั้ง Winner และ Looser ดังนี้

– บริษัทในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ – ได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบที่เข้มขึ้น (Tighten regulation)

– บริษัทในกลุ่มสิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า – ไม่ได้รับผลกระทบ

– บริษัทในกลุ่มสินค้าเกษตร ได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ (พอร์ต B-CHINE-EQ มีลงทุนบริษัท YUAN LONGPING HIGH-TECH AG ผลิตข้าวพันธุ์ผสมโดยใช้เทคโนโลยี จนได้รับรางวัล “Father of Hybrid Rice”)

2. ผลการดำเนินงาน Allianz All China Fund (Bloomberg code: ALACEAT) ใน 1Q2018 +3.69% เทียบเกณฑ์มาตรฐาน +0.78% โดย

Positive Contributor

– หุ้นที่ Overweight ในพอร์ตลงทุนกลุ่ม Healthcare โดยมีน้ำหนักลงทุน 6.7% สร้างผลตอบแทน +29.82%

(มีลงทุนในหุ้นข้างต้นอาทิ AIER EYE HOSPITAL GROUP CO และ JIANGSU HENGRUI MEDICINE)

Negative Contributor

– หุ้นที่ Overweight ในพอร์ตลงทุน กลุ่ม Consumer staple โดยมีน้ำหนักลงทุน 9.5% ให้ผลตอบแทน -5.95% (มีลงทุนในหุ้นข้างต้นอาทิ WULIANGYE YIBIN CO LTD ผลิตสุราขาวพรีเมี่ยม ราคาหุ้นลดลงในไตรมาสแรกทำให้ 2018FW PE ลดต่ำกว่า 20x แต่ EPS Growth ยังเติบโตราว 30% มองว่าราคาจะกลับมาได้)

3. มี Headline news ปรากฏว่าว่าการบริโภคจะชะลอตัวหลังสัดส่วนหนี้สินภาคครัวเรือนจีน (Household debt) สูงขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับเกินกว่า 50% ในช่วงเวลาเพียงปีเดียว

แท้จริงแล้วการบริโภคสินค้าจะสูงขึ้นตามรายได้สูงขึ้น (Income growth) ภาระหนี้ (Debt burden) ที่ยังไม่สูงเกินกว่า 70% จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย คนจีนมีอัตราการออม (Saving rate) สูงจึงไม่น่ากังวล

4. ความเคลื่อนไหว ของหุ้นสำคัญๆในพอร์ต ณ 30 มี.ค.18

– Tencent Holdings LTD (หุ้นอันดับ 1 น้ำหนักลงทุนในพอร์ต 8.5%) เป็นหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาด NASDAQ สหรัฐฯ มองว่าจะยังผันผวน เพราะ Valuation อยู่ระดับสูง: Fair Value จึงยังไม่ Overweight ตอนนี้

– Bank of Ningbo CO LTD (หุ้นอันดับ 4 น้ำหนักลงทุนในพอร์ต 3.6%) เป็นหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดเซิ่นเจิ้น A-Shares ที่ผ่านมามี EPS Growth 15-20% สูงกว่าหุ้นกลุ่ม Banking ที่ระดับ 5%

– China Merchants Bank (หุ้นอันดับ 5 น้ำหนักลงทุนในพอร์ต 3.6%) เป็นหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง H-Shares มี 18FW PE ต่ำกว่า 20x และ PEG (PE to Growth) ต่ำกว่า 1x

– Angel Yeast CO LTD (หุ้นอันดับ 6 น้ำหนักลงทุนในพอร์ต 3.3%) เป็นหุ้นจีนที่จดทะเบียนในจตลาดเซิ่นเจิ้น A-Shares มี EPS Growth +35% ในปีนี้มีโอกาสปรับเพิ่มราคาสินค้า (Product Price) ขึ้น 5%, ปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายในรัสเซีย, มีต้นทุนขายลดลงจากราคาวัตถุดิบลด  มีการขยายธุรกิจไปยัง Non-Core Business เช่น Yeast Extract

Source: Allianz Global Investor, 29 เม.ย.18