BF Knowledge Tips: เลือกลงทุนลดหย่อนภาษีให้เหมาะกับ Gen Y

BF Knowledge Tips: เลือกลงทุนลดหย่อนภาษีให้เหมาะกับ Gen Y

โดย พริ้มพัชร จิรบวรพงศา, AFPTTM

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี  วัยทำงานอย่างเรา น่าจะกำลังมองหาการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีกันอยู่แน่ๆ โดยเฉพาะ Gen Y  ที่กำลังคิดไม่ออก บอกไม่ถูกว่า จะเลือกลงทุนอะไรดี? ระหว่างกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพราะไม่ว่าจะเลือกแบบไหน  ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการถือครองค่อนข้างนาน แถมด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ก็ดูไม่ค่อยแน่นอนสักเท่าไหร่ ซึ่งก็อาจส่งผลให้เราตัดสินใจเลือกลงทุนได้ยากเข้าไปอีก

โดยการเลือกลงทุนในกองทุน  SSF หรือ  RMF สำหรับวัยทำงาน คน Gen Y ควรมองควบคู่ไปกับเป้าหมายลงทุนระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องไปกับเงื่อนไขการลงทุนตามที่สรรพากรกำหนด เช่น กองทุน SSF ควรจับคู่กับเป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้า  เช่น  เราต้องการที่จะมีธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง หรือต้องการที่จะมีเงินเพื่อไปดาวน์บ้านใหม่แบบนี้ เป็นต้น ส่วนการลงทุนในกองทุน  RMF ควรจับคู่กับเป้าหมายลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ  เพราะก็อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า  รายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  หรือเงินบำนาญที่ได้รับจากประกันสังคมนั้น ไม่น่าที่จะเพียงพอสำหรับวัยเกษียณในอนาคต  ดังนั้น คน Gen Y อย่างเรา ควรเริ่มสะสมเงินลงทุนระยะยาว ผ่านการลงทุนในกองทุน RMF เพื่อเปิดโอกาสให้เงินลงทุนของเราในวันนี้ ได้เติบโตกลายเป็นเงินก้อนที่ใหญ่ขึ้น  และมีเพียงพอสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดี

สำหรับสัดส่วนการลงทุน  ระหว่างกองทุน  SSF  และ  RMF  นั้น  ไม่มีคำแนะนำที่ตายตัวหรือ One-Size-Fits-All  เพราะแต่ละคนมีความจำเป็น  และให้ความสำคัญในเป้าหมายแต่ละอย่างที่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากต้องให้คำแนะนำจริงๆ ก็อยากให้เน้นที่เป้าหมายเกษียณก่อน เพราะเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่ ที่ต้องการใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งถ้าหากเริ่มต้นสะสมเงินลงทุนได้ไวและสม่ำเสมอ วัยทำงานคน Gen Y อย่างเรา  ก็ไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบันใส่เงินก้อนใหญ่ๆ ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเยอะๆในช่วงใกล้วัยเกษียณ  เพื่อคาดหวังที่จะให้เงินเติบโตได้ไวๆ ให้ทันกับวัยเกษียณที่ใกล้เข้ามาเต็มที แต่ถ้าหากตอนนี้ เรามีเงินลงทุนค่อนข้างจำกัด หรือทำงานในบริษัทที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อเป้าหมายเกษียณอยู่แล้ว  ก็อาจเลือกนำเงินไปลงทุนในกองทุน  SSF  แทน เพื่อไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเป้าหมายเพื่อการเกษียณเพียงอย่างเดียว

ในส่วนของการเลือกนโยบายลงทุนที่เหมาะสม ขอแนะนำให้วัยทำงาน คน Gen Y เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท  หลากหลายภูมิภาค  เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุน โดยสามารถเลือกลงทุนได้ ทั้งในตราสารหนี้ระยะสั้น  ตราสารหนี้ระยะยาว  หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ  จากฝั่งเอเชียบ้าง  ฝั่งยุโรปบ้าง  หรือจะเป็นทั่วโลกเลยก็ได้  รวมถึงการลงทุนทางเลือกอื่นๆ อย่างทองคำ  ก็แนะนำว่า ควรที่จะมีติดพอร์ตไว้บ้าง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  สัดส่วนในการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท  จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละคน  แต่ถ้าหากเป็นไปได้  ก็อยากแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นอีกสักหน่อย  เพราะการลงทุนลดหย่อนภาษีในกองทุน SSF และ RMF  เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะโดยปกติแล้ว  สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเช่น หุ้น  ระดับความเสี่ยงหรือความผันผวนมักจะน้อยลง ตามระยะเวลาลงทุนที่ยาวนานขึ้น

นอกเหนือจากนี้ เรายังจำเป็นต้องศึกษานโยบายลงทุนร่วมด้วย โดยควรเลือกลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีที่มีนโยบายลงทุนสอดคล้องไปตามเทรนด์โลกอนาคต และควรที่จะเป็นภาพอนาคตแบบไกลๆ  อย่างน้อยๆ สัก 10 ปีด้วย  เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF   

ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีว่า ปัจจุบันเราใช้เทคโนโลยีเป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่โลกอนาคต ธุรกิจต่างๆ จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี  รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต (Life Style)  ของเราในอนาคตก็แทบจะแยกออกจากเทคโนโลยีไม่ได้เลย ดังนั้น  ถ้าหากให้แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี กองทุน B-INNOTECHSSF และ  B-INNOTECHRMF  ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ควรค่าต่อการถือครองไว้อยู่ในพอร์ตลงทุน  แต่อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตเทรนด์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไป วัยทำงานคน Gen Y ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเราสามารถสับเปลี่ยนนโยบายลงทุนได้เสมอ   โดยที่สรรพากรยังคงนับเงื่อนไขการถือครองหน่วยลงทุนต่อเนื่องให้…ขอให้สบายใจได้