กองทุน B-GLOB-INFRA, B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF Q4/2022

กองทุน B-GLOB-INFRA, B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF Q4/2022

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA)
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOB-INFRARMF)
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อการออม (B-GLOB-INFRASSF)

“ในปีหน้า 2023 ตลาดหุ้นมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจจะกระทบถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียนในครึ่งหลังของปี 2023
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนมองว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะมีแรงกดดันที่จำกัด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Regulated Asset หรือหุ้นที่มีผู้แข่งขันน้อยรายและมีการกำกับดูแลจากรัฐ เช่น กลุ่มไฟฟ้า น้ำ พลังงาน เป็นต้น เพราะบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่มีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอน ทำให้มีกำไรและเงินปันผลไม่ผันผวนมากนัก”

พอร์ตการลงทุน

• ในไตรมาส 3 จนถึงเดือนตุลาคม ผู้จัดการกองทุนได้เข้าลงทุนใน Pennon บริษัทการจัดการน้ำของสหราชอาณาจักร, West Japan Railway (JR West) ผู้ให้ดำเนินการด้านรถไฟในฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู, Edison International บริษัทพลังงานของสหรัฐ, Constellation Energy บริษัทก๊าซของสหรัฐ และ Eletrobras บริษัทไฟฟ้าของบราซิล

• หุ้นที่ทำผลการดาเนินงานได้ดีในไตรมาส 3 คือ หุ้นจากบราซิล ได้แก่ CPFL Energia และ CCF โดย CPFL Energia เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในด้านการจัดจำหน่ายพลังงานในประเทศบราซิล และมีการผลิตพลังงานด้วย บริษัทเน้นพลังงานน้ำและพลังงานหมุนเวียน ในการทำธุรกิจเน้นการทำสัญญาแบบ Take-or-Pay ในระยะยาว หรือการตกลงทำการซื้อขายโดยกำหนดปริมาณกันล่วงหน้า ในขณะที่ CCE เป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานด้านคมนาคมขนส่งรายใหญ่ของบราซิล ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วน ทางใต้ดิน รถไฟ เรือเฟอรี่ รวมถึงสนามบินด้วย ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานออกมาแข็งแกร่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของกิจกรรมภายในประเทศ

มุมมองในอนาคต

• ในปีหน้า 2023 ตลาดหุ้นมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจจะกระทบถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียนในครึ่งหลังของปี 2023 อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนมองว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะมีแรงกดดันที่จำกัด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Regulated Asset หรือหุ้นที่มีผู้แข่งขันน้อยรายและมีการกำกับดูแลจากรัฐ เช่น กลุ่มไฟฟ้า น้ำพลังงาน เป็นต้น เพราะบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่มีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอน ทาให้มีกำไรและเงินปันผลไม่ผันผวนมากนัก

• เมื่อดูถึงปัจจัยสนับสนุนหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานในปี 2023 และในปีต่อๆ ไป พบว่า มีหลายปัจจัย โดยแบ่งแต่ละกลุ่ม ดังนี้

o ด้านพลังงานสะอาด หลายประเทศมีเป้าหมายที่ต้องการพึ่งพาพลังงานในประเทศให้ได้มากที่สุด ดังนั้น เม็ดเงินเพื่อสนับสนุนด้านนี้จะมีมากขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในยุโรป ที่ต้องทดแทนการนำเข้าพลังงานและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานใหม่ที่จะส่งให้ยุโรปได้ต่อไป

o ด้านการขนส่ง การขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านจะมีความสำคัญมากขึ้น จากการปรับเปลี่ยนผู้ผลิตให้อยู่ในประเทศใกล้เคียง ดังนั้นจะมีการลงทุนเพื่อสร้างความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้ สำหรับกลุ่มสนามบินยังไม่สามารถกลับไปถึงระดับก่อนโควิดได้ ประกอบกับแรงกดดันเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวในปีหน้า ทำให้ส่งผลกระทบเชิงลบกับกลุ่มนี้อีกระยะหนึ่ง

o ด้านการสื่อสาร การใช้ 5G ยังมีอย่างต่อเนื่อง และจะพัฒนาต่อไปเป็น 6G ทำให้ธุรกิจเสาสื่อสารมีความสาคัญ ซึ่งสัญญาของธุรกิจนี้ส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาวที่อ้างอิงกับอัตราเงินเฟ้อ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อในระยะยาว แต่ในระยะสั้น กำไรของกิจการอาจจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นได้

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น
หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน ในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต