สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 25% ในวันที่ 23 ส.ค.

สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 25% ในวันที่ 23 ส.ค.

BF Economic Research

  • สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 25% ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ หลังสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเสร็จสิ้นกระบวนการรับฟังความเห็นจากสาธารณะ
  • การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในรอบนี้ นับเป็นรอบที่สองตามแผนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯที่ USTR ได้ประกาศไปในช่วงกลางเดือน มิ.ย. โดยในรอบแรกสหรัฐฯ ได้ขึ้นภาษีกับสินค้าจีนมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ มีผลบังคับใช้ไปแล้วในวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการตอบโต้โดยเริ่มเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% กับสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจำพวกสินค้าเกษตร และรถยนต์ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. เช่นเดียวกัน
  • ในลำดับถัดไป สหรัฐฯ กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 10% (และอาจกำลังพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25%) ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการรับฟังความเห็นจากสาธารณะที่จะเสร็จสิ้นในวันที่ 5 ก.ย. ขณะที่จีนได้ตอบโต้กลับด้วย เตรียมมาตรการโต้ตอบในเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่ารวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษีระหว่าง 5-25%

  • เมื่อพิจารณามูลค่าสินค้านำเข้าระหว่างกัน จะเห็นได้ว่าจีนเริ่มหมดกระสุนที่จะตอบโต้กลับ เนื่องด้วยจีนไม่ได้นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในมูลค่าที่มาก ขณะที่สหรัฐฯ ยังมีแผนพิจารณาการตอบโต้การค้าในกลุ่มสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยความมั่นคงของชาติ (Section 232) กับทุกประเทศผู้ส่งออก หากมาตรการดังกล่าวผ่านการพิจารณา อาจจะทำให้ สงครามการค้ายิ่งปะทุรุนแรงและมีส่วนทำให้ GDP โลกถูกกระทบในกรอบ 6pp-1.0pp ในปี 2020