ค่าเงินลีราของตุรกีวิกฤติสุดในรอบ 17 ปี กระทบยุโรปและEmerging Markets

BF Economic Research

  • ค่าเงินลีราของตุรกีดิ่งลงอย่างหนัก โดยแตะ 6.916 ลีราตุรกี ต่อ ดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่องของตุรกี ประกอบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาประกาศเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีกสองเท่า
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้แสดงความกังวลว่าการดิ่งลงของค่าเงินลีราจะส่งผลกระทบต่อธนาคารยุโรปในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ของตุรกี
  • สำหรับผลต่อตลาดอาเซียนนั้นค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียและเปโซของฟิลิปปินส์อ่อนตัวลงแรง

ค่าเงินลีราของตุรกีดิ่งลงอย่างหนัก โดยแตะ 6.916 ลีราตุรกี ต่อ ดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่องของตุรกี ประกอบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาประกาศเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีกสองเท่า เป็นอัตราภาษีต่อการนำเข้าเหล็กจะอยู่ที่ 50% และอลูมิเนียมอยู่จะที่ 20% หลัง

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้แสดงความกังวลว่าการดิ่งลงของค่าเงินลีราจะส่งผลกระทบต่อธนาคารยุโรป โดยเฉพาะธนาคารในสเปน อิตาลี และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของตุรกี โดยการลดลงของค่าเงินลีราน่าจะส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ต่างประเทศของตุรกีลดลงกระทั่งผิดนัดชำระได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและลุกลามไปในยุโรปได้   

นอกจากนี้ วิฤติการดังกล่าว ยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ให้อ่อนค่าลง เนื่องจากอุปสงค์ต่อเงินดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มขึ้นในฐานะเงินสกุลที่มีความปลอดภัยท่ามกลางภาวะที่น่ากังวลใจของตุรกี

สำหรับผลต่อตลาดอาเซียนนั้นค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียและเปโซของฟิลิปปินส์อ่อนตัวลงแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดดุลการค้าที่ต่อเนื่อง โดยสกุลเงินรูเปียห์ทรุดตัวลงแตะ 14,608 เทียบกับดอลลาร์ ในวันนี้ จากระดับ 14,478 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ส.ค.) ขณะที่ เปโซฟิลิปปินส์อ่อนตัวลงแตะ 53.471 เทียบกับดอลลาร์ ในวันนี้ จากระดับ 53.160 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ส.ค.)