ส่องเส้นทางสู่โปรกอล์ฟที่ไม่แตกต่างจากวิถีการลงทุน (ตอนจบ)

ส่องเส้นทางสู่โปรกอล์ฟที่ไม่แตกต่างจากวิถีการลงทุน (ตอนจบ)

By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

ในตอนก่อนหน้านี้ เราได้เล่าเรื่องราวกว่าจะเป็นโปรของโปรอุ๋ย คุณวิรดา นิราพาธพงศ์พร กันมาแล้ว ในวันนี้เราจะมานำเสนอกันต่อเกี่ยวกับแนวคิดดีๆ ในการเล่นกอล์ฟของโปรอุ๋ย ที่ดูๆ ไปแล้ว นักลงทุนก็สามารถจะหยิบแนวคิดนี้มาปรับใช้กับการลงทุนได้เช่นกัน

 

โปรอุ๋ย นั้น ได้อธิบายเรื่องของการเล่นกอล์ฟไว้ว่า กอล์ฟ เป็นเกมกีฬาที่มีด้วยกัน 18 หลุม แต่ละหลุมจะมีพาร์ คือ พาร์ 3 พาร์ 4 พาร์ 5 เป็นดั่งดัชนีชี้ค่ามาตรฐานที่แตกต่างกันไป ความหมายของพาร์ 3 คือ ต้องตี 1 ทีให้ออน แล้ว 2 พัต พาร์ 4 คือ ตี 2 ทีออน แล้วก็ 2 พัต พาร์ 5 ก็คือ ตี 3 ทีออน แล้วก็ 2 พัต เหล่านี้อาจจะพลาด 1 ชอตได้แต่ต้องตีกลับมาได้ ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว โปรอุ๋ยมองว่า กอล์ฟ คือ เกมการแก้ไขความผิดพลาด เมื่อพลาดแล้วต้องหาทางกลับเข้ามาทำพาร์ให้ได้ และการที่ทำผลงานมาได้ดีตลอด ก็ไม่ได้การันตีว่าผลงานจะดีสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ขณะเดียวกันในระหว่างที่แข่งขันกอล์ฟ มองไปเห็นภาพสนามทุกแห่งสวยก็จริง แต่ทุกสนามมีความแตกต่างกันไป ที่สำคัญคือสนามจริงไม่เหมือนสนามซ้อมเลย เพราะสนามซ้อมเป็นพื้นพรมเรียบและมีการตัดเป็นสี่เหลี่ยมที่ช่วยให้เล็งเป้าหมายได้ง่าย ตีได้ดี แต่เมื่อไปถึงสนามจริง นักกอล์ฟต้องประยุกต์เอง เพราะสนามไม่ได้เรียบ หญ้าก็มีความสูงแตกต่างกันไป ทำให้ความยากและง่ายของสนามต่างกัน ดังนั้น เวลายืนก็ต้องปรับท่ายืน เอียงขึ้นลงหรือซ้ายขวา ที่สำคัญลมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเล่นด้วย เรียกว่า กีฬากอล์ฟ ต้องผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะ ต้องมีทั้งทฤษฎีและความละเอียดอ่อนรวมกัน

นักกอล์ฟนั้นจะต้องฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์เสมือนอยู่ในสนามจริง และระหว่างที่เจอสถานการณ์จริงก็ต้องตีโจทย์ตลอดเวลาว่า ควรต้องนำฝีมือแบบไหนมาใช้กับสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งนักกอล์ฟระดับโลกที่ประสบความสำเร็จหลายคนมักจะพูดแนวทางเดียวกันว่า ก่อนที่จะตีชอตลงหลุมนั้น เขาเห็นภาพทุกอย่างเกิดขึ้นในหัวแล้ว อย่างเช่น ไทเกอร์ วู้ด เคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่เขาพัตลูกนั้นลงไป เป็นการพัตครั้งที่ 2 หรือ 3 เพราะในหัวสมองนั้นลูกกอล์ฟลงหลุมไปก่อนแล้ว 1-2 ครั้ง

โดยภาพรวมแล้ว กอล์ฟเป็นเรื่องของร่างกายและจิตใจ ซึ่งจิตใจนั้นอาจสำคัญกว่าร่างกายด้วยซ้ำ เพราะลูกกอล์ฟอยู่กับที่ มีแต่ตัวเราที่เล่นที่จะต้องเข้าไปทำอะไรกับลูกกอล์ฟ เป็นผู้สร้างทิศทางเอง ต่างจากกีฬาอื่น ที่ลูกบอลกลมๆ จะวิ่งเข้ามาหาเรา มีทิศทางมาอยู่แล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกีฬากอล์ฟจะมาจากเรา

ก่อนการตีทุกครั้ง เราจะต้องวางแผนไว้แล้ว เช่น เราจะเล็งที่กิ่งไม้กิ่งนั้น เน้นเล็งเป้าหมายที่เล็กและชัดเจนที่สุดยิ่งดี ไม่ใช่คิดเพียงว่าเราจะตีไปตรงนั้น ไม่ได้ ต้องมองและจินตนาการวิถีของลูก ยิ่งมีภาพที่ชัดเจนในสมองเท่าไหร่ยิ่งทำชอตนั้นได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ เวลาแข่งขัน เราต้องไม่คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วในหลุมก่อนๆ เพราะถ้าคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว จะทำให้เราทำสิ่งที่ต้องทำตรงหน้ายากขึ้น ซึ่งโปรอุ๋ยเชื่อว่า โปรที่ประสบความสำเร็จทุกคนเป็นเหมือนกันคือคิดเพียงว่า ต่อไปนี้จะทำอย่างไร จะไม่กลับไปมองย้อนหลังว่า หลุมนี้ทำได้ไม่ดีเลยตรงนี้ เปรียบแล้วก็ไม่ต่างจากการลงทุนเลย ถ้าลงทุนที่ผ่านมาแล้วเกิดความผิดพลาด ก็ควรปล่อยผ่านไป เพราะเราไม่สามารถจะแก้ไขมันได้แล้ว แต่ขอให้เราทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด รวมทั้งชอตต่อๆ ไปที่จะต้องทำด้วย

โปรอุ๋ย ยังบอกอีกว่า การเล่นกอล์ฟ เป็นกีฬาที่แข่งกับคู่แข่งอีกเป็น 100 คน แต่ก็แข่งกับตัวเองด้วย และด้วยความที่ไม่ได้แข่งแบบตัวต่อตัวเหมือนกีฬาอื่น โอกาสการชนะจึงลดลงไป อีกทั้งกอล์ฟเป็นกีฬากลางแจ้ง มีเรื่องของลม สภาพอากาศมาเกี่ยวข้อง พื้นที่แข่งก็กว้างใหญ่อยู่เป็น 100 ไร่ ซึ่งอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นเวลาที่แข่งก็ไม่ควรจะไปใจจดใจจ่อดูคะแนนคนอื่น เพราะจะทำให้เราโฟกัสกับเกมยาก หากจะดูคะแนนก็ควรดูช่วงที่ใกล้จบการแข่งขันแล้ว ถ้าคะแนนสูสีกันอยู่ ต้องรู้ว่าจะต้องสร้างสถานการณ์อย่างไร เลือกที่จะบุกหรือวางอย่างไร แต่ถ้าคะแนนไม่ได้สูสี เราก็เล่นเกมของเราต่อไปจนจบ

สุดท้ายนี้ โปรอุ๋ย ฝากไว้ว่า กีฬากอล์ฟนั้นก็คล้ายกับการลงทุน ผู้เล่นต้องมีวินัย มีเป้าหมายที่ชัดเจน ระหว่างที่เล่น(ลงทุน) อยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้วต้องรู้จักตัดขาดทุน หรือไม่เอาจิตใจไปขึ้นลงอยู่กับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญการลงทุนเป็นเรื่องระยะยาว เหมือนกับกีฬากอล์ฟที่มีถึง 18 หลุม

ดังนั้นอย่าตัดสินทุกอย่างเพียงแค่การเล่นชอตที่ทำอยู่หรือชอตที่ผ่านมาแล้ว แต่ต้องเดินหน้าเล่นทีละชอต และเล่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงจุดหมายนั่นเอง