ทรัมป์ยิ้มแย้มกับชัยชนะของแผนลดภาษีครั้งใหญ่

วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปการจัดเก็บภาษีครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปีเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ชัยชนะทางกฎหมายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ใกล้เป็นจริง

แต่เนื้อหาบางส่วนที่ถูกแก้ไขทำให้จำเป็นต้องตีร่างกฎหมายกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาซ้ำอีกครั้ง

เนื้อหาหลักของแผนลดภาษีครั้งนี้คือการลดภาษีนิติบุคคลจาก 35% เป็น 21% มีการลดภาษีสำหรับบุคคลด้วยลดลั่นกันไป 7 ขั้น คือ ที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6% รวมทั้งมีเครดิตทางภาษีในการดูแลบุตร

ตลาดหุ้นสหรัฐแรลลี่อย่างแรงในช่วงหลังที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ส่วนหนึ่งมาจากแผนลดภาษี เพราะว่าบริษัทจะได้ประโยชน์เต็มๆจากภาษีที่จะจ่ายน้อยลง อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วคนรวยจะได้ประโยชน์จากการลดภาษีของพรรครีพับรีกันครั้งนี้

ในแง่การคลังแล้วถือว่าเป็นการผิดวินัย เพราะว่าการลดภาษีจะเพิ่มหนี้รัฐ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า

ร่างกฎหมายที่ถูกแก้จะโดนตีกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และเมื่อได้รับไฟเขียวในขั้นสุดท้ายจึงจะส่งไปให้ประธานาธิบดี ทรัมป์ ลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมาย

พรรคเดโมแครตถือโอกาสวิจารณ์ฝ่ายรีพับลิกันว่าดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีอย่างปกปิดและรีบร้อนเกินเหตุ จนทำให้ร่างกฎหมายถูกตีกลับไปกลับมา

“การลงมติซ้ำในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลักฐานล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของ GOP ถูกเขียนอย่างสะเพร่าขนาดไหน” แนนซี เพโลซี แกนนำ ส.ส.เดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร ระบุในถ้อยแถลง