กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ (BGOLD) และ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ (BGOLD) และ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF)

สรุปภาวะการลงทุนในทองคำ

“ราคาทองคำคาดว่าจะอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้นและเคลื่อนไหวในกรอบ USD 1,200 – 1,400 oz. โดยมีปัจจัยหลัก ได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มในทิศทางอ่อนค่าลงจากการที่ FED ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

ราคาทองคำในช่วงปี 2018 ลดลงเกือบตลอดทั้งปี ทว่ามีสัญญาณกลับฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 สวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง จากการที่ FED ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 จากเดิม 3 ครั้งลดลงเหลือ 2 ครั้งรวมถึง ความต้องการเข้าซื้อทองคำ จากฝั่งผู้บริโภคเพื่อปกป้องมูลค่าทรัพย์สินและอุปสงค์ต่อสินทรัพย์ปลอดภัยที่เร่งตัวขึ้น ท่ามกลางความผันผวนและการปรับฐานของสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นทั่วโลกหรือราคาน้ำมัน รวมถึงปัญหาเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ด้วยความกังวลของนักลงทุนได้สะท้อนผ่าน VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นที่ไต่ระดับสูงขึ้น โดยผลตอบแทนของทองคำในช่วงไตรมาส 4 ปี 2018 เท่ากับ 7.7% และผลตอบแทนของทองคำในช่วงปี 2018 เท่ากับ -1.5%

นอกจากนั้น ราคาทองคำในช่วงปลายปี 2018 ที่เพิ่มขึ้นยังได้รับแรงหนุนจากการเข้าถือทองคำเพิ่มขึ้นของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเพื่อลดผลกระทบจากแนวโน้มคำเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง รวมถึงการกลับเข้าซื้อทองคำของกองทุน ETFs อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.

แนวโน้มราคาทองคำ

ราคาทองคำ คาดว่าจะอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้นและเคลื่อนไหวในกรอบ USD 1,200 – 1,400 oz. จากราคาปัจจุบันที่ 1,318 oz. (ณ วันที่ 31 ม.ค. 2019) โดยมีปัจจัยหลัก ได้แก่ การที่ FED ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ด้วยเหตุผลที่ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นของ FED รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ระดับปกติ ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐชะลอการแข็งค่า เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ด้วยความสัมพันธ์ที่ผกผันกันระหว่างราคาทองคำกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้น ปัจจัยอื่นๆ ที่น่าจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในปีนี้ ได้แก่

  1. อุปสงค์ต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับพอร์ตการลงทุน ด้วยตลาดการเงินและสภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน
  2. การดำเนินนโยบายผ่อนคลายจากทางการของจีนประกอบกับค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะช่วยหนุนอุปสงค์ต่อทองคำจากผู้บริโภคชาวจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ของตลาดทองคำ

กองทุนหลัก (Master Fund)

ชื่อ: SPDR Gold Trust

นโยบายลงทุน: มุ่งเน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนหลักหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดการทั้งหมดของกองทุน
ให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำแท่ง

ประเภทโครงการ: กองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์

วันจัดตั้งกองทุน: 18 พฤศจิกายน 2004

ประเทศที่จดทะเบียน: สิงคโปร์

สกุลเงิน: USD

เกณฑวัดผลการดำเนินงาน (Benchmark): LBMA Gold Price PM

Morningstar Category: US ETF Commodities Precious Metal

Bloomberg code: GLD:SP

Trust’s Holdings: Physical gold bullion kept in the form of London Good Delivery bars and held in allocated account

*ที่มา State Street Global Advisors ข้อมูลเดือน ธ.ค. 2018 ดูรายละเอียดกองทุนรวมต่างประเทศได้ที่

https://www.bblam.co.th/application/files/9215/4821/2833/Fact_Sheet_GLD_DEC_2019.pdf