กองทุนบัวหลวงมั่นใจ ‘BTSGIF’ เติบโตได้ต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดพร้อมจ่ายเงินผู้ถือหน่วยสม่ำเสมอ

กองทุนบัวหลวงมั่นใจ ‘BTSGIF’ เติบโตได้ต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดพร้อมจ่ายเงินผู้ถือหน่วยสม่ำเสมอ

กองทุนบัวหลวงแสดงความมั่นใจ ‘BTSGIF’ สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง จากแนวโน้มผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งยังมีกระแสเงินสดจากรายได้ค่าโดยสาร พร้อมจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยได้สม่ำเสมอทุกไตรมาส

วศิน วัฒนวรกิจกุล

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงมีความมั่นใจในการดำเนินงานของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ว่า อนาคตสามารถเติบโตได้สม่ำเสมอ จากจำนวนผู้โดยสารรวมที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง และยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้เต็มรูปแบบ (สถานีแบริ่ง ถึง สถานีเคหะฯ) รวมถึงเส้นทางในอนาคตที่จะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ จำนวนเที่ยวโดยสารรวมล่าสุดเดือน เม.ย. 2562 อยู่ที่ 18.74 ล้านเที่ยว เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่จำนวนเที่ยวโดยสารทั้งหมด ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 241 ล้านเที่ยว หรือเฉลี่ย 744,475 เที่ยวต่อวันทำการ

“รายได้ค่าโดยสารของ BTSGIF ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 61/62 (1 ม.ค. 2562 – 31 มี.ค. 2562) มีรายได้ค่าโดยสาร 1,768.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย และกองทุนบัวหลวงมั่นใจว่า รายได้ค่าโดยสารจะยังเติบโตได้อีกในอนาคต ตามความต้องการใช้บริการของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ที่ติดขัด ทำให้ผู้เดินทางมองหาทางเลือกการเดินทางที่สะดวกสบาย เพื่อไปถึงจุดหมายได้เวลาอันรวดเร็วขึ้น” กรรมการผู้จัดการ กล่าว

นายวศิน กล่าวว่า BTSGIF เป็นกองทุนที่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2556 กองทุนสามารถจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ทุกไตรมาส รวมเป็นเงิน 4.247 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นการจ่ายเงินปันผล 23 งวด รวม 4.058 บาทต่อหน่วย และเงินลดทุน 3 งวด รวม 0.189 บาทต่อหน่วย

ขณะที่งวดล่าสุด 1 ม.ค. 2562-31 มี.ค. 2562 กองทุน BTSGIF มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่จะนำไปจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปแบบเงินลดทุนเป็นเงิน 978.17 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 0.169 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XN เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินลดทุนวันที่ 6 มิ.ย. นี้ และจ่ายเงินลดทุนวันที่ 24 มิ.ย. นี้ ส่งผลให้เมื่อนับรวมการจ่ายเงินลดทุน 4 งวดแล้ว อยู่ที่ 0.358 บาทต่อหน่วย

“เราเชื่อมั่นในการขยายตัวของชุมชนเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีประชากรหนาแน่นมาก เฉลี่ยถึง 10,000 คนต่อตารางกิโลเมตร และมีแนวโน้มที่จำนวนประชากรจะหนาแน่นเพิ่มขึ้นทุกปี ยังไม่รวมกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการของระบบคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอส ตอบโจทย์นี้ เราจึงเชื่อมั่นว่ากองทุน BTSGIF มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก” นายวศิน กล่าว