กบข. ร่วมกับนักลงทุนสถาบัน ประกาศเจตนารมณ์ระงับลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีประเด็นปัญหา ESG

กบข. ร่วมกับนักลงทุนสถาบัน ประกาศเจตนารมณ์ระงับลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีประเด็นปัญหา ESG

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวในโอกาสร่วมกับนักลงทุนสถาบัน 32 ราย ลงนามแนวปฏิบัติ “การระงับลงทุน” (Negative List Guideline) ประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (ESG Collaborative Engagement) ว่า การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนสถาบัน จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG เพื่อผลักดันให้นักลงทุนตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment)

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวว่า การลงทุนโดยพิจารณา ESG จะช่วยสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่สม่ำเสมอและลดความเสี่ยงให้สมาชิกระยะยาว ก่อให้เกิดพัฒนาการที่ยั่งยืนของตลาดทุนอีกด้วย ซึ่งการรวมตัวในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมของกลุ่มนักลงทุนสถาบันชั้นนำของประเทศไทย ในการขับเคลื่อนการลงทุนตามหลัก ESG โดย กบข. ในฐานะผู้ริเริ่มผลักดันจนเกิดความร่วมมือนี้ เล็งเห็นตรงกันกับนักลงทุนสถาบัน รวม 32 ราย ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 10.8 ล้านล้านบาท ทั้งจากสำนักงานประกันสังคม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และบริษัทประกันชีวิต ในการประกาศเจตนารมณ์ร่วมลงนาม แนวปฏิบัติ “การระงับลงทุน” (Negative List Guideline) เพื่อยกระดับการลงทุนของประเทศไทยสู่การลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment) ตามมาตรฐานสากล

ความร่วมมือครั้งนี้มีสาระสำคัญ คือ กรณีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กระทำผิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเด็นที่ร้ายแรง หรือดำเนินงานขัดแย้งต่อหลักการ ESG ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบอย่างมีนัยสำคัญ กลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ร่วมลงนามฯ จะเข้าประสานงานบริษัทเพื่อหาทางแก้ปัญหาหรือหาทางออกที่เหมาะสมร่วมกัน (Positive Engagement) ท้ายที่สุด หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาที่รุนแรง เพื่อป้องกันผลกระทบทางลบที่อาจเกิดกับผู้ถือหุ้นและสังคมในภาพรวม นักลงทุนแต่ละราย ตกลงร่วมกันจะไม่เข้าลงทุนเพิ่มในบริษัทที่มีปัญหาเป็นเวลา 3 เดือน หรือจนกว่าจะแก้ไขปัญหาสำเร็จ เพื่อผลักดันให้บริษัทกลับมาดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืนและสอดคล้องกับหลักการ ESG ต่อไป