LTF  RMF ที่ใครๆ ก็อยากมี

LTF  RMF ที่ใครๆ ก็อยากมี

LTF  RMF ที่ใครๆ ก็อยากมี

โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

BF Knowledge Center 

อีกไม่ถึง 1 เดือนเราก็จะเปลี่ยนปีกันแล้ว นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ความรัก ครอบครัว ท่องเที่ยว และแจกของขวัญ สำหรับใครหลายๆ คน ดูๆ แล้วยิ่งกว่าเป็นมหกรรม Mid Year Sale ซะอีก แต่ เอ๊ะ !!!… วันนี้พวกเราจับกระเป๋าลงทุนในกองทุน LTF และ RMF กันแล้วหรือยัง โดยเฉพาะกองทุนรวม LTF นี่ถือเป็นเรื่องที่จะพลาดกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะเป็นยิ่งกว่าของ Limited Edition ซะอีก เนื่องจากใครๆ ที่อยากลงทุนในกองทุนนี้เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี จะเป็นการลงทุนในปีสุดท้ายแล้วนะ!

แต่สำหรับคนที่มีสายตาอันยาวไกล เมื่อนึกถึงภาพเราตอนแก่ น่าจะนึกถึงกองทุนรวม RMF แว่วๆ มาว่ามีน่าสนใจหลายกองทุน ส่วนคนที่ไม่ชอบอะไรที่ฉุกละหุกล่ะก็ ค่อยๆ ทยอยซื้อของ ทยอยลงทุนก็ได้ การเลือกลงทุนแบบ DCA (ทยอยลงทุนด้วยเงินเท่าๆ กันทุกเดือน) ก็จะช่วยให้เราได้ของที่ถูกใจเร็วยิ่งขึ้น คราวนี้เราลองมาดูสิ่งที่เราสนใจกัน

RMF ของถูกใจ ใช้เวลา ต้องรอคอย (แต่ทำให้เรามีเงินใช้ในยามแก่นะ)

กองทุนรวม RMF ช่วยเราได้สำหรับเป้าหมายนี้ เพราะเหมือนบังคับให้เราต้องลงทุนทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากอยากมีเงินใช้หลังเกษียณมากหน่อยก็สามารถลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้ทั้งปี ไม่เกิน 500,000 บาท แต่ทั้งนี้ อย่าลืมดูว่ากองทุนที่เราลงทุนนั้นมีนโยบายอะไร และตอนนี้เราอายุเท่าไหร่ หากอายุยังน้อย เลข 2 เลข 3 (20-30 ปี) การเลือกลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากหน่อย ก็ดูจะช่วยทำให้เรามีโอกาสได้ผลตอบแทนในอนาคตสูง เนื่องจากมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนาน และโดยเฉพาะหากมีการลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกปีๆ จะดียิ่งขึ้นคือลงทุนทุกๆ เดือน เพื่อให้ต้นทุนที่เราลงทุนเป็นต้นทุนแบบถัวเฉลี่ย อย่างเช่นช่วงหุ้นขึ้น ต้นทุนเราก็จะได้สูงหน่อย ได้หน่วยลงทุนน้อยหน่อย แต่ช่วงหุ้นลงเมื่อเราลงทุนอย่างสม่ำเสมอเราก็จะได้ต้นทุนที่ต่ำลงและได้หน่วยลงทุนที่มากขึ้น ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะช่วยทำให้เป้าหมายทางการเงินของเราเป็นไปได้ง่ายขึ้น

สำหรับเงินลงทุนควรลงทุนให้ได้อย่างสม่ำเสมอและควรลงทุนเพิ่มทุกปี หากรายได้เราปรับสูงขึ้น อย่านำรายได้ที่สูงขึ้นไปใช้จ่ายมากขึ้น เพราะนอกจากจะลงทุนในสัดส่วนที่น้อยลงแล้ว ยังทำให้เราเคยชินกับการใช้จ่ายมากขึ้นเมื่อมีรายได้มากขึ้นด้วย และหลังเกษียณหากเราไม่มีรายได้เข้ามาและยังเคยชินกับการใช้จ่ายแบบนี้ อาจไม่ดีแน่ แต่หากบางปีเราจำเป็นต้องใช้จ่ายเยอะกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริงๆ อย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลไม่ว่าจะเป็นของตัวเองหรือคนในครอบครัว ปีนั้นก็สามารถลดการลงทุนลงได้ อย่างน้อยๆ ก็ลงทุนปีละ 5,000 บาท อย่าหยุดการลงทุนเพราะอาจทำให้ลืมลงทุนในปีถัดไป จนทำให้ผิดเงื่อนไขการลงทุน

ส่วนการเลือกนโยบายการลงทุนนั้น สามารถจัดสัดส่วนการลงทุนได้อย่างหลากหลาย อยากเน้นการลงทุนเฉพาะหุ้นไทยก็สามารถเลือกได้ หรือต้องการลงทุนในหุ้นไทยแบบเน้นๆ ก็สามารถเลือกลงทุนได้ อยากลงทุนในต่างประเทศ ลงทุนทั่วโลก ลงทุนในกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ หรือกลุ่มเทคโนโลยี ก็สามารถเลือกลงทุนได้ แต่ถ้าหากไม่อยากรับความเสี่ยงมากนักอยากให้มีความยืดหยุ่นในการลงทุนก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายแบบเฟล็กซิเบิ้ลได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายแบบไหน สำคัญที่สุดคือการมีวินัยในการลงทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญในอนาคต

LTF โอกาสสุดท้ายของปีนี้ ถือครองไม่นานมากก็ขายคืนได้

ถ้ามีเป้าหมายที่ต้องใช้เงินในช่วง 5-7 ปี การเลือกลงทุนในกองทุนรวม RMF อาจจะไม่เหมาะนักสำหรับผู้ที่อายุยังน้อย ดังนั้นการเลือกลงทุนในกองทุนรวม LTF จะช่วยตอบโจทย์ได้มากกว่า แต่อย่าลืมว่าการลงทุนในกองทุนรวม LTF นั้น ผู้ลงทุนจะต้องรับความเสี่ยงได้สูง เพราะเป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว กองทุนมีการลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และกองทุนรวม LTF นั้นสามารถใช้สิทธิลงทุนและลดหย่อนภาษีได้ถึงสิ้นปี 2562 หรือสามารถลงทุนในวันสุดท้ายได้คือวันที่ 30 ธันวาคม 2562 เท่านั้น ดังนั้น หากใครที่ไม่เคยได้ลงทุนในกองทุนรวม LTF มาก่อนเลย ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงสุดท้ายที่สามารถลงทุนได้และยังได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี

นอกจากนี้ยังช่วยตอบโจทย์การลงทุนได้ด้วย เพราะเมื่อลงทุนแล้วจะต้องถือครองนาน 7 ปีปฏิทิน คือลงทุนปี 2562 สามารถขายคืนได้ในปี 2568 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนี้จะทำให้เราไม่ต้องวอกแวกรีบมาขายคืน เพราะต้องถือนาน 7 ปีปฏิทิน ซึ่งตามสถิติที่ผ่านมา การลงทุนแล้วถือได้นาน 5-7 ปีขึ้นไป มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี และช่วยลดความวิตกกังวลว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง เพราะถึงอย่างไรก็ต้องถือให้ครบสิทธิจึงจะขายคืนได้นั่นเอง สำหรับการลงทุนในกองทุนรวม LTF นั้น

แม้ว่านโยบายหลักๆ จะเหมือนกัน คือ มีการลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่าร้อย 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน แต่ผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าต้องการเงินปันผลระหว่างการลงทุนด้วยหรือไม่ หรือต้องการลงทุนแบบลดความเสี่ยงลงสักหน่อยก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายจำกัดการลงทุนในหุ้น เช่น ลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 75 ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ หรือหากใครที่ชอบความหวือหวา การเลือกลงทุนในหุ้นไทยแบบกระจุกตัว เช่นมีการลงทุนในหุ้นไทยเพียง 10 ตัวเน้นๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหวือหวา

รู้แบบนี้แล้ว อย่ามัวเอาแต่นั่งคิด เพราะสิ่งที่เราอยากได้จะไม่มีทางเป็นความจริง ถ้าเราไม่ได้ทำให้เกิดขึ้น การลงทุนในกองทุนรวม LTF และ RMF อย่างเหมาะสมเพื่อเป้าหมายสำคัญของเราในอนาคตนั้น เป็นยิ่งกว่าการลงทุนที่แถมด้วยของสมนาคุณพิเศษที่กองทุนรูปแบบอื่นไม่มี (แถมด้วยการได้สิทธิลดหย่อนภาษี) สิทธิพิเศษดีๆ แบบนี้ เป็นใครก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ อย่าให้หมดโอกาสแล้วมาเสียใจกันข้ามปีนะคะ (โอกาสสุดท้าย ปีนี้เท่านั้น กับ LTF !!!)