กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL)และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOBALRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL)และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOBALRMF)

ภาพรวมปัจจัยอันส่งผลต่อหุ้นโลกในมุมมองของกองทุนหลัก

ไตรมาสแรกของปี 2020 ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง การระบาดของโคโรนาไวรัสไปทุกหนทุกแห่งทั่วโลกทำให้ตลาดเงินและเศรษฐกิจหยุดชะงัก บดบังรัสมีข่าวดีจากการเจรจาทางการค้าเฟสหนึ่งระหว่างสหรัฐฯและจีน ดัชนีความกลัวเมื่อวัดจาก Volatility Index สูงขึ้น สภาพคล่องขาดหาย ทำให้เศรษฐกิจโลกหันหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าจะเป็นการชะลอตัวลงครั้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะผลจากการระบาดจะส่งผลในวงกว้าง รุนแรงและจะอยู่กับเราไปอีกนาน

รัฐบาลในหลากหลายประเทศได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อจำกัดผลกระทบต่อภาคการเงินลดการร่วงลงทางเศรษฐกิจและรองรับรายได้ที่ลดลงในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ คลอดงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติครั้งนี้ ประเทศทางฝั่งยุโรปมีการผ่อนคลายกฎระเบียบการสร้างหนี้สาธารณะของรัฐบาลเพื่อเพิ่มความยึดหยุ่นในการจัดการวิกฤต ทางฝั่งธนาคารกลางหลายแห่งมีการออกมาตรการที่เข้มข้นในการซื้อคืนสินทรัพย์ประเภทพันธบัตรจำนวนมหาศาลและปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร่งด่วน

ด้านราคาน้ำมันดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงเพื่อลดการปริมาณผลิต ส่วนสหราชอาณาจักรซึ่งตามข้อตกลงจะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ม.ค. ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อนอันมีสาเหตุจากการระบาดของโรคไวรัส

ผลการบริหารกองทุน Wellington Global Opportunities Equity Fund ในไตรมาสแรก (ม.ค.- มี.ค.)

กองทุนหลักสร้างผลตอบแทน -19.5% เทียบกับดัชนี MSCI AC World Net -21.4% ระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. กลุ่มอุตสาหกรรมย่อยราคาปรับลดลงทุกกลุ่ม กลุ่มพลังงานและกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่ราคาปรับลดลงมากที่สุด ขณะที่กลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยีราคาปรับลดลงน้อยที่สุด ผลตอบแทนที่ดีของกองทุนหลักมาจากการเลือกหุ้นรายตัวและผลของการเลือกหุ้นรายตัวที่ว่านี้ทำให้กองทุนหลักมีสัดส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน สถาบันการเงิน วัสดุก่อสร้าง น้อยกว่าดัชนี

สำหรับการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่อยู่ในแต่ละๆกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น กองทุนหลักทำได้ดีในกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร สินค้าอุปโภคบริโภคฟุ่มเฟือย แต่ทำได้ไม่ดีในกลุ่มเฮลธ์แคร์ อสังหาริมทรัพย์ หุ้นในกลุ่มบริการด้านการสื่อสารที่สร้างผลตอบแทนโดดเด่นที่สุดคือบริษัท China Tower (Communication Services) ราคาหุ้นบริษัทผันผวนมากในไตรมาสแรกแต่สามารถปิดตัวสูงขึ้นได้หลังจากที่รายงานผลประกอบการมีกำไรสุทธิสูงกว่าที่ตลาดและนักลงทุนคาดไว้ การระบาดของไวรัสส่งผลบวกต่อรายได้บริษัทจากอุปสงค์ต่อบริการออนไลน์เร่งตัว การปรับลดลงของราคาน้ำมันส่งผลต่อกองทุนหลักอยู่เหมือนกันโดยหุ้นที่มีการขายทิ้งออกไปคือบริษัท Schlumberger (Energy) ทำธุรกิจบ่อน้ำมันสัญชาติสหรัฐฯราคาหุ้นลดลงจากผลพวงของการทำสงครามราคาระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย

หุ้นสามอันดับแรกที่ส่งผลบวกต่อผลตอบแทนในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.)

หุ้นสามอันดับแรกที่ส่งผลลบต่อผลตอบแทนในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.)

ที่มา: Wellington Management, as of March 2020

กลยุทธ์การบริหารและมุมมองต่อตลาดของกองทุน Wellington Global Opportunities Equity Fund

กองทุนหลักได้ตรวจตราข้อมูลเชิงตัวเลขหลายด้าน หนึ่งในตัวเลขที่ติดตามคือจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน เพื่อนำมาพิจารณาหาความยืดเยื้อของการแพร่ระบาดไวรัสในระลอกแรกภายใต้แนวคิดที่ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยอย่างรุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคิดกระบวนการตัดสินใจในตอนนี้ทำให้มีโอกาสเข้าลงทุนใน

1. หุ้นที่ราคาปรับลดลงแรงและมีฐาะทางการเงินดี เป็นผู้นำตลาด สามารถบริหารจัดการทรัพยากรภายในบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีโอกาสเพิ่มผลตอบแทนเทียบเงินลงทุน หน้าตาธุรกิจที่ว่านี้จึงอยู่ในกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเชื่อมต่อข้อมูล กลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มเฮลธ์แคร์ ได้แก่ หุ้นบริษัท Comcast (Software) หุ้นบริษัท Salesforce.com (Software) หุ้นบริษัท Baxter International (Healthcare)

2. หุ้นของธุรกิจที่มีโอกาสทำกำไรได้เร็วในช่วงที่ยอดคนติดเชื้อไวรัสลดลง

สำหรับตลาดหุ้นยุโรป กองทุนหลักยังไม่ไว้ใจเพราะเป็นภูมิภาคที่คงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำและมีโอกาสถูกแทรกแซงจากรัฐบาล เมื่อวิเคราะห์พื้นฐานบริษัทกองทุนจึงตัดสินใจลดสัดส่วนในธุรกิจพลังงานในยุโรป (ขายหุ้นบริษัท Total, พลังงาน, สัญชาติฝรั่งเศส) และหลีกเลี่ยงธุรกิจบริการต้อนรับ โรงแรม เพราะเชื่อว่าสถานการณ์รอบนี้จะลากยาว ใช้เวลานานถึงจะฟื้นตัว

ที่มา: Wellington Management, as of March 2020

Sector positioning

Source: Wellington Management, 31 March 2020

Regional positioning

Source: Wellington Management, 31 March 2020

รายชื่อหลักทรัพย์ลงทุน 10 อันดับแรกของกองทุนหลัก Wellington Global Opportunities Equity Fund

กลยุทธ์ลงทุนของ Wellington Global Opportunities Equity Fund

แสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวในหุ้นทั่วโลก ด้วยการวิเคราะห์หุ้นจากปัจจัยพื้นฐานและข้อมูลเชิงลึกของบริษัท ประกอบกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจมหภาค โดยพิจารณาจาก

  • ผลตอบแทนต่อเงินลงทุน (Return to Capital)
  • งบการเงินและโครงสร้างของอุตสาหกรรมเพื่อหาบริษัทที่ให้ผลตอบแทนอย่างยั่งยืนและปรับตัวได้ดี
  • โอกาสการลงทุนอันเกิดจากความไม่มีประสิทธิภาพของตลาด อย่างเช่นนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเติบโตของกำไรในระยะสั้นจนเกินไป

กราฟ: แสดงกระบวนการลงทุนของ Wellington Global Opportunities Fund ซึ่งคัดเลือกบริษัทลงทุนโดยพิจารณาบริษัทที่ตลาดคาดหวังผลตอบแทนต่อเงินลงทุนไว้ต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น สาเหตุก็เนื่องมาจาก

  1. ตลาดให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านผลประกอบการและกำไรสุทธิของกิจการในระยะสั้น
  2. ตลาดไม่มีประสิทธิภาพ: เนื่องจากนักลงทุนสนใจให้ความสำคัญกับกลุ่มอุตสาหกรรมใดกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่ง หรือประเทศในประเทศหนึ่งมากเกินไป
  3. กองทุนเชื่อว่าผลตอบแทนต่อเงินลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนราคาหุ้นในตลาดของบริษัทจดทะเบียน
  4. ข้อมูลบริษัทที่เกี่ยวกับแนวทางการบริหารสินทรัพย์และแนวทางการจัดสรรเงินลงทุนจะเป็นตัวบ่งชี้ผลตอบแทนของบริษัทในอนาคต

Source: Wellington Management, 31 March 2020

กองทุนหลัก (Master Fund)

ชื่อ: Wellington Global Opportunities Equity Fund ชนิดหน่วยลงทุน Class S

นโยบายการลงทุน: เป็นกองทุนที่จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก มีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญ รวมถึงหลักทรัพย์ต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นตราสารแห่งทุน เช่น หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ และใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงที่ออกโดยบริษัทต่างๆ ทั่วโลก

วันที่จดทะเบียน: กุมภาพันธ์ 2010

ประเทศที่จดทะเบียน: ลักเซมเบิร์ก

NAV: USD 18.83

เกณฑ์วัดผลการดำเนินงาน (Benchmark): MSCI AC World Net

Morningstar Category: Large cap Growth

Bloomberg code: WLLGOAU LX

Fund size: USD 353.2 Million

Number of holdings: 112

ผลการดำเนินงานกองทุนย้อนหลัง (ข้อมูลวันที่ 31 มี.ค. 2020)

 

เผยแพร่ ณ วันที่ 13 พ.ค. 2563

ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง