BTSGIF เตรียมนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 จ่ายคืนเงินทุนให้ผู้ถือหน่วย 0.134 บาทต่อหน่วย วันที่ 15 ธ.ค. นี้

BTSGIF เตรียมนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 จ่ายคืนเงินทุนให้ผู้ถือหน่วย 0.134 บาทต่อหน่วย วันที่ 15 ธ.ค. นี้

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2563 (ครึ่งปีแรกของการดำเนินงานปี 2563/2564) จ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการคืนเงินทุน 0.134 บาทต่อหน่วย โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 9.951 บาท เหลือหน่วยละ 9.817 บาท ทำให้ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลและการคืนเงินทุนรวมแล้วทั้งสิ้น 5.325 บาท

การจ่ายคืนเงินทุนครั้งนี้ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับคืนเงินทุนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อจ่ายคืนเงินทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 15 ธันวาคม 2563

นายพรชลิต กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 กองทุนต้องเผชิญสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย ทั้งยังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินงานไตรมาสแรกค่อนข้างมาก แต่เริ่มบรรเทาลงในไตรมาสที่ 2 จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้รายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 อยู่ที่ 880.9 ล้านบาท ลดลง 65.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามการลดลงของรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ และส่งผลให้รายได้จากการลงทุนสุทธิ เท่ากับ 841.1 ล้านบาท ลดลง 66.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ ภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 กองทุนรับรู้กำไรสุทธิจากเงินลงทุน 735.7 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่าเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิตามมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้น 800.0 ล้านบาท (รายการที่ไม่ใช่เงินสด) เป็นผลมาจากประมาณการรายได้สุทธิในปี 2563/2564 จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในเดือนหลังๆ ที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายและมีการควบคุมที่ดี ทำให้มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดที่เหลือเพิ่มขึ้น มากกว่ากระแสเงินสดที่หายไปจากอายุสัญญาสัมปทานที่สั้นลง แต่มูลค่าบางส่วนก็ถูกหักกลบออก จากการบันทึกเงินลงทุนในสถานีศึกษาวิทยา (S4) จำนวน 64.0 ล้านบาท

ในส่วนของภาพรวมจำนวนผู้โดยสาร ครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 อยู่ที่ 57.1 ล้านเที่ยวคน ลดลง 53.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยครึ่งปีแรกของปี 2563/2564 เท่ากับ 29.7 บาทต่อเที่ยวการเดินทาง เพิ่มขึ้น 3.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการยกเลิกส่วนลดค่าโดยสารสำหรับบัตรเติมเงินให้เท่ากับบัตรรายเที่ยว ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563

ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุนในปัจจุบัน จะลดลงตามอายุของสิทธิในรายได้สุทธิตามสัญญาสัมปทานที่จะหมดอายุในปี 2572

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

กองทุนบัวหลวง
19 พฤศจิกายน 2563

ประวัติการจ่ายเงินปันผลและเงินคืนทุน