B-SIP กองทุนดีๆ ที่ควรมีไว้ในพอร์ต

B-SIP กองทุนดีๆ ที่ควรมีไว้ในพอร์ต

โดย พริ้มพัชร จิรบวรพงศา, AFPTTM

นับตั้งแต่กองทุนบัวหลวงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผลตอบแทนช่วงหนึ่งของกองทุนได้ปรับตัวลดลง จากแรงขายคืนเพื่อทำกำไรของนักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ในช่วงปลายๆ เดือนเมษายน ส่งผลให้ผู้ลงทุนอาจเกิดความกังวลใจว่า กองทุน B-SIP จะสามารถยืนหยัดต่อไปได้ในสภาวะเช่นนี้จริงหรือเปล่า?

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า มีนักลงทุนจำนวนหนึ่ง เลือกที่จะขายคืนหุ้นเพื่อทำกำไรหลังสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 หลังจากที่แต่ละบริษัทประกาศผลการดำเนินงาน  และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคต ด้วยเหตุผลที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ก็คือเป็นการขายคืนเพื่อตั้งหลัก และมองหาการลงทุนใหม่ๆ  ดังนั้น ในช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมา  กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ รวมถึงกองทุน B-SIP ก็ได้รับผลกระทบเล็กน้อย โดยราคาของกองทุน B-SIP  ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคา IPO ทำให้เราเกิดความกังวลใจอยู่เหมือนกัน

เพราะอย่างแรกเลยคือ การลงทุนแบบยั่งยืนเป็นเรื่องที่นักลงทุนไทยยังไม่ค่อยคุ้นเคย แต่อย่างที่เคยบอกเอาไว้ว่า เทรนด์การลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ เน้นการลงทุนที่มีความรับผิดชอบต่อโลก โดยเทรนด์นี้จะเป็นเทรนด์หลักในการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว ซึ่งถ้าเราติดตามการลงทุนก็จะพบว่า หุ้นในกลุ่มยั่งยืนทั่วโลกกำลังค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสแรก ส่งผลให้ราคาของกองทุน B-SIP  ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังคงมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งที่ไม่แน่ใจว่า กองทุน B-SIP คืออะไรกันแน่?  เพราะเมื่อศึกษาข้อมูลการลงทุนพบว่า  มีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาจนมีขนาดเล็กที่สุด ก็คือเท่ากับเมล็ดข้าว โดยอุปกรณ์นี้สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้า ความดันไฟฟ้า ในอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเข้าไปเป็นส่วนประกอบในสินค้าเพื่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ สมาร์ททีวี รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังถูกพูดถึงกันมากที่สุดตอนนี้ด้วย

ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในกองทุน B-SIP ด้วย เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ต้องมีการลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้วย เพราะเทคโนโลยีได้ถูกนำมาเป็นเครื่องมือหรือตัวกลาง ในการช่วยให้เราใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง และสามารถแปลงพลังงานธรรมชาติให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ จึงเป็นการลดการเบียดเบียนธรรมชาติ  และตัวเราเองก็ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

สำหรับปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในกองทุน B-SIP  นั้น ต้องบอกเลยว่า ประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงประเทศที่เป็นผู้นำของโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ  ยุโรป  หรือจีน ต่างก็มีเป้าหมายร่วมกัน เรียกได้ว่าเป็นพันธกิจโลก ในการที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2593 โดยปัจจุบัน รัฐบาลของโจ ไบเดน  ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาหนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้วยงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียน แบตเตอรี ยานยนต์ไฟฟ้า และบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรืออย่างฝั่งจีนเองก็ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยคาดว่าภายใน 9 ปีนี้จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าเกินกว่าครึ่ง และสามารถเปลี่ยนเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ทั้งหมด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 ปีนี้

ด้วยเหตุนี้  การลงทุนในกองทุน B-SIP จึงมีโอกาสที่จะเติบโตได้ในระยะยาวตามเทรนด์โลก ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนโดยนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสนับสนุนบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวไปพร้อมๆ กับการสร้างผลกระทบเชิงบวก หรือลดผลกระทบเชิงลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยความเชื่อว่า บริษัทที่ดีและยั่งยืนจะต้องสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสันติ ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็น สามารถลงทุนได้ในระยะยาว รับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้  เข้าใจเรื่องความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน และมองเห็นโอกาสของการลงทุนแบบยั่งยืน ก็แนะนำให้จัดสรรเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนในกองทุน B-SIP เพื่อคว้าโอกาสในการรับผลตอบแทน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้โลกของเรา เติบโตต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

Let’s Build a Better World Together!!