แนะนักลงทุนระยะยาวไม่ควรกังวลมากนักกับตลาดหุ้นที่ตกลงไป 10% จากระดับสูงสุด

แนะนักลงทุนระยะยาวไม่ควรกังวลมากนักกับตลาดหุ้นที่ตกลงไป 10% จากระดับสูงสุด

เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ตกลงไป 10% จากจุดสูงสุดที่เพิ่งทำมาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนักลงทุนที่กำลังตื่นตระหนกอยู๋ ก็อาจจะไปมองถึงแนวโน้มระยะยาวด้วย อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีปรับฐานลงไป 10% ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ สิ่งที่ไม่ปกติก็คือ จะมีระยะเวลานานเท่าไหร่ในการปรับฐาน

จากข้อมูลพบว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2020 ดัชนี S&P500 ลดลงไปประมาณ 33% ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมา ส่วนการปรับลดลงมากกว่า 10% ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น คือช่วงปลายปี 2018 ซึ่ง Fed มีการพูดถึงเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก โดยในเวลานั้น นับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงช่วงก่อนคริสต์มาส S&P500 ปรับลงไป 19%

โดยรวมแล้ว 2 ช่วงเวลาที่ตลาดปรับลดลงมากกว่า 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นทุกๆ 19 เดือน

ทั้งนี้ มีรายงานในปี 2019 พบว่า การปรับฐาน 5-10% ของดัชนี S&P500 เกิดขึ้นเป็นประจำ โดยนับตั้งแต่ปี 1946 ตลาดปรับลงไป 5-10% ถึง 84 ครั้ง หรือมากกว่า 1 ครั้งต่อปี และตลาดก็จะกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจากจุดที่ลดลง โดยจะใช้เวลาในการฟื้นตัวจากจุดที่ขาดทุนอย่างน้อย 1 เดือน ส่วนการปรับลดลงไปลึกนั้นเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่บ่อยนัก

ตลาดปรับลดลงไป 10-20% เกิดขึ้นทั้งหมด 29 ครั้ง โดยแต่ละครั้งเกิดขึ้นทุกๆ 2.5 ปี นับตั้งแต่ปี 1946 ส่วนตลาดที่ปรับลงไป 20-40% เกิดขึ้น 9 ครั้ง หรือประมาณ 8.5 ปีเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง และตลาดปรับลดลงไป 40% เกิดขึ้น มากกว่า 3 ครั้ง หรือทุกๆ 25 ปี

ประเด็นที่สำคัญคือ ตลาดกลับมามากกว่า 20% จากช่วงที่มีภาวะถดถอย โดยเกิดขึ้น 12 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1946 และตลาดกลับมา 20-40% นั้นหายาก และมักจะเกิดไม่นาน คือ เพียง 14 เดือนเท่านั้น

ที่มา : CNBC