วิกฤติรัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงขึ้นกดดันราคาน้ำมันพุ่ง

วิกฤติรัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงขึ้นกดดันราคาน้ำมันพุ่ง

ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเมื่อวันจันทร์ช่วงเย็น ประธานาธิบดี Vladimir Putin สั่งการให้กองกำลังเข้าไปใน 2 พื้นที่ที่มีความแตกแยกทางภาคตะวันออกของยูเครน และเขากล่าวว่า จะยอมรับความเป็นอิสระของพื้นที่โดเนตสค์ และลูแฮงสค์

หลังจากมีข่าวนี้ ช่วงเช้าวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2022 ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้นมา 3.22% เป็น 94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.5% ต่อบาร์เรล เป็น 96.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นส่งผลให้ตลาดเกิดความกระวนกระวายใจ ผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2022 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden ออกมาบอกว่า สหรัฐฯ เชื่อว่า Putin ตัดสินใจที่จะโจมตียูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

รัสเซียมีการวางกองกำลังทหารกว่า 150,000 คน บริเวณพรมแดนติดกับยูเครน และทีมบริหารของ Biden ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเพิ่มกองกำลังเข้าไปอีกกว่า 7,000 คน

ความตึงเครียดทางทหารนี้สร้างความกังวลว่ารัสเซียอาจเตรียมจะบุกยูเครน ทำให้เกิดความคาดกลัวว่าจะมีการซ้ำรอยเหมือนกับที่รัสเซียยึดครองไครเมียอย่างผิดกฎหมายในปี 2014

รัสเซียเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันรายใหญ่ที่สุดที่ป้อนให้กับสหภาพยุโรปในปีที่ผ่านมา และความตึงเครียดนี้ก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมาเหนือ 90 ดอลลาสร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% แล้วในปีนี้ และเพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 80% นับตั้งแต่ต้นปี 2021 อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นก็อาจมาจากปัจจัยอื่นๆ เสริมด้วย เช่น อุปทานที่ตึงตัว

ที่มา : CNBC