Economic Review April-May 2018: เศรษฐกิจอาเซียน

Economic Review April-May 2018: เศรษฐกิจอาเซียน

BF Economic Research

Fund Management Group

BF Monthly Economic Review April-May 2018

 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซียขึ้นสู่ระดับ Baa2 จากระดับ Baa3 พร้อมแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอินโดนีเซียที่ระดับ “มีเสถียรภาพ” (Stable) เนื่องจากนโยบายที่แข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมาจากการที่รัฐบาลสามารถควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับต่ำกว่า -3% ของ GDP ได้ ขณะที่ ทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมาช่วยหนุนให้อินโดนีเซียสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆได้ดียิ่งขึ้น

อัตราเงินเฟ้อมาเลเซียในเดือนมี.ค. ชะลอตัวมาที่ +1.3% YoY จาก +1.4% YoY ในเดือนก.พ. เนื่องจากการหดตัวของราคาภาคขนส่ง -1.5%YoY และจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ส่งผลให้ทั้งไตรมาส 1/2018 อัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียอยู่ที่ +1.8% YoY ลดลงจาก +3.7% ในปี 2017 ทั้งนี้ สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2018 เราคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้ง และทำให้ทั้งปีอยู่ที่ระดับ 2.0-3.0% ตามการคาดการณ์ของธนาคารกลางมาเลเซีย ที่ปรับลดลงมาจาก 2.5-3.5%

รัฐบาลฟิลิปปินส์ ประกาศปิดเกาะโบราไกย์ทางตอนกลางของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2018 เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวบนเกาะดังกล่าวทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว +16% เป็นราว 2 ล้านคนในปี 2017 จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวมของประเทศทั้งหมด 6.6 ล้านคน จึงทำให้ผู้ธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม และร้านอาหารในพื้นที่ รวมถึงสายการบินน่าจะได้รับผลกระทบและต้องหาทางปรับตัวในช่วงดังกล่าว นอกจากนั้น รัฐบาลจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่จะดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึง 7.5 ล้านคนในปีนี้ ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ด้วย

การส่งเงินกลับบ้านของแรงงานโพ้นทะเล (Cash Remittances) ขึ้นไปอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ฯในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น +4.5% YoY แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะ ขยายตัวได้เกิน +10% YoY โดยค่าเงินเปโซที่อ่อนค่าลงมาค่อนข้างมาก รวมถึงเงินเฟ้อที่ทะยานขึ้นหลังรัฐบาลบังคับใช้มาตรการปฏิรูปทางภาษีใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2018 ล้วนแต่เป็นปัจจัยหนุนการโอนเงินกลับบ้านในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

เศรษฐกิจสิงคโปร์ช่วงไตรมาสที่ 1/2018 ขยายตัว +4.3% YoY (Advance Estimate) เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว +3.6% YoY และถึงแม้ว่าหากคิดเป็นรายไตรมาสแล้ว GDP ชะลอลงเหลือ +1.4% QoQ saar แต่ก็ยังคงเหนือกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ +1.0% QoQ saar พอสมควร โดยถูกขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมอยู่อย่างมีนัยยสำคัญ จากการขยายตัวที่ +10.1% YoY และได้รับแรงหนุนจาก ภาคบริการที่เร่งขึ้น +3.8% YoY ด้วยการกิจกรรมในธุรกิจการเงินและการค้า ขณะที่ภาคการก่อสร้างฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ยังหดตัว -4.4% YoY จากตัวเลขของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก สำหรับระยะต่อไปยังต้องจับตามองความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ได้

ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เข้ารัดกุมนโยบายการเงิน โดยเพิ่มความชันของกรอบอัตราแลกเปลี่ยน (S$NEER) ขึ้น ภายหลังเศรษฐกิจปีที่แล้วฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก และอัตราเงินเฟ้อทรงตัวอยู่สูงกว่าของปี 2015-16 สักพักหนึ่งแล้ว บนพื้นฐานตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาสแรกของปี 2018 เติบโต +7.38% YoY ต่อเนื่องจากไตรมาส 3-4/2017 ที่เศรษฐกิจขยายตัว +7.46% YoY และ +7.65% YoY จากการขยายตัวของภาคการผลิตและภาคเกษตรกรรม โดยอุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และเหล็กขยายตัว +13.0% ในไตรมาส 1/2018 ซึ่งเป็นการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปี 2018 ไว้ที่ 6.7%

ที่ประชุมรัฐสภาเมียนมามีมติเสียงข้างมาก เลือกนายอู วิน มินต์ วัย 66 ปี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเมียนมา แทนนายถิ่น จอว์ ที่ขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของทุกฝ่าย ขณะที่ พลโทมินต์ ส่วย ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทัพ และนายเฮนรี แวน เทียว ซึ่งเป็นตัวแทนของวุฒิสภา ได้รับตำแหน่งรองประธานาธิบดี