กองทุนเปิดบัวหลวงฟินเทค (B-FINTECH) Q3/2022

กองทุนเปิดบัวหลวงฟินเทค (B-FINTECH) Q3/2022

“มุมมองของผู้จัดการกองทุนในระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยคาดการณ์ว่า กลุ่ม Fintech จะกลับมาให้ผลการดาเนินงานที่ดีกว่าตลาดได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและฐานที่ต่ำ โดยกองทุนเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกดิจิทัล พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทนกิจกรรมทางการเงินแบบเดิมๆ”

ภาพรวมตลาด
ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ของสหรัฐฯ ที่รวมอาหารและพลังงานเดือน ก.ค. 2565 อยู่ที่ 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อน ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ที่สูงถึง 9.1% เมื่อเดือน มิ.ย. 2565
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps เป็น 1.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบสามทศวรรษ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออังกฤษที่พุ่งขึ้นอยู่ที่ 10.10% ในเดือนก.ค. 2565 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ จากค่าอาหารและค่าพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร่งด่วนมากขึ้น
จีนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ต่ำกว่ำคาดการณ์ ประกอบกับการบริโภคและความเชื่อมั่นที่ลดลงจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปลอดโควิด ส่งผลให้ธนาคารกลางของจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางสาหรับเงินกู้ 1 ปี ลง 10 bps เหลือ 2.75% เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ


พอร์ตการลงทุน
กองทุนมีการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทางการเงินกลุ่มวัฏจักรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ตัวอย่างเช่น บริษัทจัดหาผู้ค้าแบบออฟไลน์ การท่องเที่ยว โรงแรม บริษัทชาระเงินด้านการเดินทางและการบริการทำให้ในช่วงที่ผ่านมา กองทุนมีผลการดำเนินงานไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดการกองทุนเห็นการฟื้นตัวที่ดีของกลุ่มเหล่านี้ในปี 2565 หลังทั่วโลกเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม กองทุนมีการให้น้ำหนักการลงทุนในจีนน้อยกว่าดัชนี เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดอย่างต่อเนื่องและกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น
ในช่วงเดือน ส.ค. 2565 กองทุน BGF Fintech Fund เพิ่มน้าหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Income : NII) ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือปริมาณเงินกู้/กิจกรรมทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจ ขณะที่ลดน้ำหนักในกลุ่มบริการทางการเงิน โดยหุ้นที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานกองทุน ได้แก่ Kaspi “Super App” ที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถาน ให้บริการชำระค่าบริการต่างๆ Online shopping และกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันที่มีรายงานการชำระเงินที่ดีกว่าคาดการณ์


มุมมองในอนาคต
มุมมองของผู้จัดการกองทุนในระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยคาดการณ์ว่า กลุ่ม Fintech จะกลับมาให้ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าตลาดได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและฐานที่ต่ำ โดยกองทุนเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกดิจิทัล พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทนกิจกรรมทางการเงินแบบเดิมๆ โดยประกอบด้วย กลุ่มการชำระเงิน กลุ่มธนาคารดิจิทัล ความมั่งคั่งทางดิจิทัลการจัดการและการลงทุน ผู้ให้บริการประกันภัยและเทคโนโลยีให้กับบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน โดยลงทุนทั้งบริษัทใหม่ๆ ผ่าน IPO และบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่เป็นที่รู้จัก

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น
หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน ในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่ง ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต