ทุนสำรองญี่ปุ่นลดฮวบเป็นประวัติการณ์ ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดด้วยงบเงิน 2.8 ล้านล้านเยนป้องกันเยนร่วง

ทุนสำรองญี่ปุ่นลดฮวบเป็นประวัติการณ์ ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดด้วยงบเงิน 2.8 ล้านล้านเยนป้องกันเยนร่วง

ทุนสำรองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นลดลง 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังความวุ่นวายในตลาดโลกส่งผลกระทบต่อมูลค่าตราสารหนี้ต่างประเทศ จึงทำให้ญี่ปุ่นต้องเข้าแทรกแซงเพื่อสกัดการไหลลงของเงินเยน

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 ทุนสำรองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.238 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 โดยข้อมูลจากกระทรวงการคลังประกาศออกมาหลังจากที่ได้มีการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา โดยใช้วงเงินถึง 2.8 ล้านล้านเยน หรือ 1.932 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อพยุงค่าเงินเยน

ก่อนหน้านี้ ตลาดตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขายพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราหลังจากที่เงินเยนญี่ปุ่นปรับตัวร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการรายงานของกระทรวงการคลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันข้อสังเกตของตลาด เนื่องจากมูลค่าหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สำรองไว้มีการลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม นายชูนิชิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะยืนยันเรื่องดังกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าแทรกแซงตลาด โดยระบุกับนักข่าวว่าตัวเลขที่ลดลงนั้นส่วนหนึ่งมาจากมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดที่ลดลงจากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากของพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐของสินทรัพย์ยุโรป ที่ค่าเงินก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการขายสกุลเงินต่างประเทศเพื่อทำการแทรกแซง

แม้ว่าในปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวพุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินในอีกหลาย ๆ ประเทศจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด มีความเข้มงวดกับนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าว ส่งผลให้เกิดความไม่สงบในตลาดการเงิน ที่สำคัญอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุของการขึ้นดอกเบี้ยยังทำให้มูลค่าตราสารหนี้ทั่วโลกลดลงด้วยเช่นกัน

ตัวเลขที่ทยอยประกาศออกมาในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นถึงทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่ปรับลดลง โดยมีเกาหลีใต้ที่ทุนสำรองลดลงมากที่สุดเป็นอันดับสองในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลก็เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหนุนสกุลเงินวอนที่อยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปีครึ่ง นอกจากนั้นแล้ว ทั้งจีน และอินโดนีเซียต่างก็รายงานทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลงด้วยเช่นกัน โดยจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีทุนสำรองสูงที่สุดในโลกรายงานตัวเลขทุนสำรอง ณ สิ้นสุดเดือนกันยายนที่ 3.029 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 3.055 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม ในขณะที่เงินหยวนปรับตัวอ่อนค่าลง 3.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทุนสำรองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นประกอบไปด้วย เงินฝากกับธนาคารกลางประเทศอื่นๆ และธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS), หลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรสหรัฐฯ ทองคำ เงินทุนสำรอง IMF และสิทธิพิเศษถอนเงิน หรือ Special Drawing Rights (SDRs)

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังญี่ปุ่นยังไม่ได้ประกาศถึงวิธีการเติมทุนสำรองระหว่างประเทศให้กลับคืนสู่ระดับเดิม ซึ่งเชื่อกันว่าอยู่ในรูปแบบของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างอิงจากการเข้าแทรกแซงของรัฐบาลในครั้งก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เงินเยนที่แข็งค่าส่งผลกระทบต่อการส่งออก

การเข้าแทรกแซงด้วยการซื้อเงินเยน และขายเงินดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลญี่ปุ่นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ขณะนี้ ผู้กำหนดนโยบายมีความกังวลต่อผลกระทบของการอ่อนค่าของเงินเยน ในขณะที่เศรษฐกิจเพิ่งอยู่ระหว่างการเริ่มฟื้นฟูจากโควิด-19 ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น และยากต่อการวางแผนทางธุรกิจ โดยนักลงทุนเริ่มเฝ้ามองข้อมูลการแทรกแซงรายวันของรัฐบาลสำหรับเดือนกรกฎาคม ถึงกันยายน ที่มีกำหนดเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายนว่า ทางการมีการแทรกแซงโดยไม่ประกาศอย่างเป็นทางการหรือไม่

ที่มา: รอยเตอร์