‘มัสก์’ เรียกร้องหยุดพัฒนา AI ชั่วคราว ปัญญาประดิษฐ์อาจเป็นภัยต่อสังคม และประเทศชาติ

‘มัสก์’ เรียกร้องหยุดพัฒนา AI ชั่วคราว ปัญญาประดิษฐ์อาจเป็นภัยต่อสังคม และประเทศชาติ

อีลอน มัสก์ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งผู้บริหารในอุตสาหกรรมเรียกร้องผ่านจดหมายเปิดผนึก ให้หยุดการพัฒนาระบบ AI ตัวใหม่ ซึ่งทรงพลังกว่า GPT-4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปของ OpenAI เป็นเวลา 6 เดือน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสังคม

อย่างไรก็ตาม จดหมายเปิดผนึกที่ออกโดยสถาบันอนาคตของชีวิต (Future of Life Institute) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระบุว่า “ระบบ AI ที่ทรงพลังควรได้รับการพัฒนา ก็ต่อเมื่อเราเชื่อมั่นว่า ผลกระทบจะเป็นไปในเชิงบวก และสามารถจัดการความเสี่ยงได้” ทั้งนี้ ในฐานข้อมูลทะเบียนความโปร่งใส (Transparency register) ของสหภาพยุโรป ระบุว่า Future of Life Institute ได้รับทุนสนับสนุนหลักจากมูลนิธิมัสก์ (Musk Foundation) รวมถึง Founders Pledge ซึ่งเป็นกลุ่มในลอนดอน และมูลนิธิชุมชนแห่งซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley Community Foundation) จากฐานข้อมูลบันทึกความโปร่งใสของสหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มัสก์ ได้กล่าวไว้ว่า “AI ทำให้ผมเครียด” โดยมัสก์เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้ผลิตรถยนต์ Tesla ที่ใช้ AI ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

นอกจากนี้ มัสก์ยังเคยแสดงความไม่พอใจต่อการวิจารณ์ของหน่วยกำกับดูแล ซึ่งมีความพยายามที่จะควบคุมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และได้มุ่งแสวงหาหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อรับรองว่า การพัฒนา AI เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

เรื่องดังกล่าวส่งผลให้ เจมส์ กริมเมลมันน์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายข้อมูลและดิจิทัลแห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนล ออกมาวิจารณ์ว่า “เป็นเรื่องเสแสร้งอย่างยิ่งสำหรับอีลอน มัสก์ ในการลงนามในจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าว เนื่องจากความพยายามอย่างหนักของ Tesla ในการต่อสู้กับความรับผิดชอบต่อ AI ที่มีข้อบกพร่องในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง” และว่า “การหยุดชั่วคราวเป็นความคิดที่ดี แต่จดหมายนั้นคลุมเครือและไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาด้านกฎระเบียบอย่างจริงจัง”

สำหรับจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ลงนามโดยผู้คนมากกว่า 1,000 คน รวมถึง มัสก์, เอมาด มอสตาเก (Emad Mostaque) ซีอีโอของ Stability AI, นักวิจัยของ DeepMind ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Alphabet, โยชัว เบนจิโอ (Yoshua Bengio) หนึ่งใน “เจ้าพ่อแห่ง AI” สจวร์ต รัสเซลล์ (Stuart Russell) หนึ่งในผู้บุกเบิกการวิจัยในวงการ AI

ทั้งนี้ ข้อกังวลดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ ChatGPT ดึงดูดความสนใจจากฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ให้ตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและด้านการศึกษา ขณะที่ สำนักงานตำรวจสากลยุโรป หรือ Europol เตือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 มี.ค.) เกี่ยวกับการใช้ระบบในทางที่ผิดในความพยายามหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต บิดเบือนข้อมูล และอาชญากรรมทางไซเบอร์

ด้าน นายแกรี่ มาร์คัส ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก หนึ่งในผู้ลงนามในจดหมายฉบับนี้ กล่าวว่า “แม้จดหมายนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เจตนานั้นถูกต้อง เราจำเป็นต้องชะลอจนกว่าเราจะเข้าใจถึงผลพวงที่เกิดขึ้น” และกล่าวว่า “ผู้พัฒนาระบบ AI รายใหญ่เริ่มปกปิดความลับมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ ซึ่งทำให้ยากลำบากสำหรับสังคมที่จะป้องกันจากสิ่งอันตรายใด ๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้น”

นับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT ของ OpenAI เมื่อปีที่แล้ว ได้กระตุ้นคู่แข่งให้เร่งพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่คล้ายกัน และบริษัทต่างๆ รวมถึง Alphabet Inc ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ต่างเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ของตน ขณะที่นักลงทุนต่างระมัดระวังต่อการพึ่งพาเพียงบริษัทเดียว จึงยินดีเปิดรับคู่แข่งขันกับ OpenAI

อย่างไรก็ตาม Microsoft ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในจดหมายและ Alphabet ไม่ตอบรับการติดต่อของผู้สื่อข่าวเพื่อขอความคิดเห็น

ที่มา:        รอยเตอร์