กองทุน B-USALPHA, B-USALPHARMF และ B-USALPHASSF Q3/2023

กองทุน B-USALPHA, B-USALPHARMF และ B-USALPHASSF Q3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า (B-USALPHA)

กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-USALPHARMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า เพื่อการออม (B-USALPHASSF)

“ ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากการลดอัตราเงินเฟ้อ”

ภาพรวมเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากการ
ลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่าธนาคารกลางรายใหญ่กำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดในวันที่ 19-20 ก.ย. 2566 เฟดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์

พอร์ตการลงทุน

กองทุนได้ผลบวกจากการคัดเลือกหุ้นรายตัว โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและพลังงาน สำหรับกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กองทุนได้แรงหนุนจากการให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้น Meta Platforms ซึ่งรายงานผลประกอบการที่เหนือกว่าคาดการณ์มากกว่าดัชนี พร้อมคำแนะนำเชิงบวก รวมถึงการที่หุ้นได้รับประโยชน์จากการลงทุนในเทคโนโลยี AI และมีแนวโน้มการเติบโตที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ หุ้นที่ส่งผลบวกต่อกองทุนมากที่สุด คือ Uber Technologies ที่รายงานรายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด จากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นที่ส่งผลกดดันผลการดำเนินงานกองทุน คือ กลุ่มสินค้าจำเป็นและกลุ่มสุขภาพ โดยหุ้น HCA Healthcare ผู้ให้บริการสถานพยาบาลในสหรัฐฯ ปรับตัวลง แม้ว่าจะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าคาดการณ์ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองที่ดีต่อหุ้นตัวนี้อยู่

ในด้านการคัดเลือกหุ้นรายตัว กองทุนให้น้ำหนักหุ้น Chipotle Mexican Grill ที่ย่อตัวลงหลังรายงานคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่ลดลงมากกว่าดัชนี อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนยังมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อหุ้นตัวนี้จากแนวโน้มการเติบโตที่ยังดีอยู่ในอนาคต

กองทุนยังคงเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตสูงและมีการประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ต่ำเกินไป รวมถึงยังคงเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี่มีการเติบโตสูง ขณะที่ลดการลงทุนในหุ้น
กลุ่มวัฏจักรและ Defensive Stock เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสุขภาพ ทั้งนี้ กองทุนให้น้ำหนักกลุ่มพลังงานมากกว่าดัชนีที่สุด และให้น้ำหนักกลุ่มอุตสาหกรรมน้อยกว่าดัชนีที่สุด

มุมมองในอนาคต

ผู้จัดการกองทุน JP Morgan US Growth Fund ยังคงให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจและรายได้ของบริษัท พร้อมทั้งประเมินว่า S&P 500 Index® จะให้ผลตอบแทน -2% ในปี 2566 และ +14% ในปี 2567

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต