ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 2

ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 2

ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใหญ่หลวง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคใดจะชัดเจนมากไปกว่าตลาดจีน

จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกด้านการตลาดในโลกดิจิทัล ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของจีนมีมูลค่ารวม 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลานี้ โดยเทียบเท่า 14% ของธุรกิจค้าปลีกหรืออาหารทั้งหมด

การที่จีนสามารถพัฒนาธุรกิจอี-คอมเมิร์ซได้อย่างก้าวกระโดดเนื่องจากการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือของประชาชนมีอัตราที่สูง และมีจำนวนมหาศาล ประชากรจีนมีมากกว่า1,300 ล้านคน แต่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง95% และการใช้โทรศัพท์มือถือของคนจีนมีมากถึง 2 ใน 3 ของเวลาที่ใช้กับเวลาดิจิทัลทั้งหมด

รายงานของ World Economic Forum ภายใต้หัวข้อ Insight Report on the Future of Consumption in Fast-Growth Consumer Markets – China ได้ระบุว่า จีนเป็นตลาดผู้บริโภคที่รวมศูนย์ที่แท้จริงผ่านสมาร์ทโฟนและอี-คอมเมิร์ซ การเปลี่ยนแปลงนี้ดำเนินไปในอัตราเร็วเหมือนแสง

นักช้อปชาวจีนมีลักษณะไฮเปอร์เป็นอย่างมาก เห็นอะไรก็อยากจะได้ แบบไฮเปอร์ อยากจะเชื่อมโยงแบบไฮเปอร์ อยากจะมีอำนาจในการเลือกซื้อของหรือบริการเองแบบไฮเปอร์ อยากจะได้ความสะดวกสบายแบบไฮเปอร์

แบรนด์ของสินค้าต่างๆ ต้องทำงานหนักเพื่อที่จะได้ใจผู้บริโภคจีนที่มีความคาดหวังสูง ที่สำคัญความหลายหลากของสินค้า และความสะดวกสบายของการใช้เทคโนโลยีทำให้ผู้บริโภคจีนสามารถเป็นผู้เลือกที่จู้จี้จุกจิกได้

ตลาดผู้บริโภคจีนมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง บริษัท เทนเซนต์ และอาลีบาบาของจีนสามารถสร้างระบบแนวนอนผ่านการเก็บข้อมูลของพฤติกรรมของผู้บริโภคในหลายรูปแบบในชีวิตประจำวัน ต่างกับระบบแนวดิ่งของโลกตะวันตกที่ไม่มีฐานข้อมูลของลูกค้ามากเท่าที่ต้องการ

คนจีนมีลักษณะชาตินิยม ทำให้สินค้าแบรนด์จีน รวมทั้งเทคโนโลยีสามารถท้าทายสินค้าแบรนด์ของเมืองนอกได้ เมื่อจีนค่อยๆ เปิดตลาดผู้บริโภคให้กับสินค้านำเข้ากว้างขึ้น แล้วแบรนด์ต่างๆ จะใช้เทคโนโลยีหรือยุทธศาสตร์อย่างไรเพื่อได้ใจผู้บริโภคจีน?

ประการแรก การเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (segments of one) ผ่านข้อความ หรือสื่อที่ไปถึงผู้บริโภคสำหรับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอโดยตรงโดยการใช้เทคโนโลยี บริษัทที่เน้นสินค้าผู้บริโภคอย่างยูนิลีเวอร์กำลังพัฒนาระบบสร้างการเชื่อมโยงแบบตัวต่อไปกับผู้บริโภคนับพันล้านคน นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เรากำลังเห็น

มีการคาดการณ์กันว่า ธุรกิจแชริ่งจะมีสัดส่วนถึง 20% ในเศรษฐกิจของจีนภายในปี 2025 การจัดกลุ่มประชากรยุคมิลเลนเนียลแยกจากกลุ่มผู้สูงวัยขึ้นจึงมีความสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและมีไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนไป

ประการที่สอง ข้อมูลเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง จีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาแรงงาน และอุตสาหกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจของยุคดิจิทัล ข้อมูล หรือปัญญาประดิษฐ์เป็นรากฐานของนวัตกรรมในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นตัวเร่งในการพัฒนาเทคโนโลยีในการรองรับการส่งข้อความ การส่งเสียงเป็นข้อความ อี-คอมเมิร์ซ รวมทั้งบ้านอัจริยะ

ประการที่สาม ความต้องการผู้ที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากในเรื่องของเทคนิคของปัญญาประดิษฐ์ หรือนวัตกรรมต่างๆ แล้ว คนในยุคดิจิทัลจำต้องมีความสามารถในการสื่อ ทั้งในเรื่องข้อความ เสียง รูปภาพ หรือวิดิโอในรูปแบบที่สามารถสร้างแบรนด์ หรือได้ใจผู้บริโภคได้

ตลาดจีนผู้บริโภคจีนกำลังเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน โดยที่จีนครบทุกอย่างไม่ว่าจำนวนประชากรที่มากกว่า1,300 ล้านคน การเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่แพร่หลายของผู้บริโภค อำนาจซื้อที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวหน้าล้ำยุค ฐานข้อมูลของผู้บริโภค (big data) ที่ใหญ่มหาศาลทำให้รู้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละคนเป็นเช่นไรในการใช้ชีวิตประจำวัน

ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในตลาดผู้บริโภคจีนต้องทันเกมและครบเครื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเทคโนโลยีและการปรับใช้ให้เหมาะสม