B-ASEAN และB-ASEANRMF

B-ASEAN และB-ASEANRMF

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN) และ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASEANRMF)

ปี 2019 นับเป็นปีแห่งการเลือกตั้งของหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น ไทย ฟิลิปปินส์ รวมถึง “อินโดนีเซีย” ที่ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงกลางเดือน เม.ย. และมีการประกาศผลการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา

ผลการเลือกตั้งปรากฎว่า นายโจโค วิโดโด จากพรรคประชาธิปไตยแห่งการต่อสู้ของอินโดนีเซีย (Indonesian Democratic Party of Struggle) เอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง พล.ท. ปราโบโว สุบิยันโต จากพรรคเกรินดา (Gerindra) ไปด้วยคะแนนร้อยละ 55:45 โดยที่ พล.ท. ปราโบโว ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ด้วยยกเหตุผลที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใส และเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนของตนเองออกมาเดินขบวนประท้วงในกรุงจาการ์ตา ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย

ที่มาของภาพ: BBC และ New York Times

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและตลาดค่าเงินกลับไม่ได้ตอบรับกับประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นมากนัก โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงแรกเริ่มของการประท้วง ก่อนที่ปรับตัวขึ้นมาใหม่ ด้วยการประท้วงที่จำกัดอยู่ในบางพื้นที่ ประกอบกับสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย อีกทั้ง การคาดการณ์ว่าการประท้วงในครั้งนี้จะไม่ยืดเยื้อยาวนานจนส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกในการลงทุนในตลาดหุ้นของอินโดนีเซีย ด้วยมูลค่าตลาดที่ P/E ประมาณ 13.8 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับในช่วงที่ตลาดย่ำแย่ในช่วงปี 2018 แต่สถานการณ์ของอินโดนีเซียดีกว่าช่วงปีที่แล้วมาก ด้วยแรงกดดันที่ผ่อนคลายลงไปทั้งด้านราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น รวมถึงค่าเงิน IDR ที่อ่อนค่า จนกระทั่งธนาคารกลางต้องออกมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยรักษาระดับค่าเงิน

ประกอบกับปัจจัยบวกในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นพลังของการบริโภคภายในประเทศ เพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีขนาดประชากรใหญ่ที่สุดในภูมิภาค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายทางการคลังต่างๆ ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องมาจากรัฐบาลของนายโจโควีในสมัยที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนยังคงมีสถานะ Slightly Overweight ในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย กองทุนเลือกลงทุนจะเน้นไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ และหุ้นขนาดใหญ่ของตลาด เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร เป็นต้น

สำหรับประเด็นความเสี่ยงที่ต้องจับตามองในปีนี้ของตลาดหุ้นอินโดนีเซียในมุมมองของผู้จัดการกองทุน ได้แก่ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และระดับของค่าเงิน IDR

ที่มา : MSCI, BBLAM ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2019