ลงทุนหุ้นไทย มองไกลไปกับ BEQSSF กองทุนบัวหลวง

ลงทุนหุ้นไทย มองไกลไปกับ BEQSSF กองทุนบัวหลวง

โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

BF Knowledge Center

SSF หรือ Super Saving Fund คือกองทุนรวมเพื่อการออม เป็นกองทุนประเภทใหม่ ซึ่งสามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ วัตถุประสงค์ก็คือ ต้องการให้เกิดการออมระยะยาว

เดิมทีเรามี SSF ธรรมดาออกมา เงื่อนไขก็คือให้ลงทุนระยะยาว เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารประเภทไหนก็ได้ แต่ว่าระยะเวลาการลงทุน 10 ปี แบบวันชนวัน ก็คือ 10 ปีเต็ม โดยการลงทุนใน SSF ธรรมดา ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และถ้าไปรวมกับการออมหรือการสะสมเพื่อเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้ารากชาร (กบข.) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือว่าเบี้ยประกันบำนาญ และเงินออมเพื่อเกษียณที่กฎหมายกำหนดต่างๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาทด้วย สิ่งเหล่านี้คือเงื่อนไข SSF ธรรมดา ที่เรารับทราบกันมา

ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤติจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่กระทบตลาดหุ้นในบ้านเรา รวมทั้งวิกฤติตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกลงมามาก ก็มีการนำเสนอกองทุน SSF พิเศษ ออกมา มีนโยบายเฉพาะ คือนโยบายกำหนดว่า ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของสินทรัพย์สุทธิ (NAV)

ในแง่ของกองทุนบัวหลวงเองก็จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนนี้เป็นกองทุนหุ้นไปเลย คือมีนโยบายเขียนไว้เลยว่าลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV กองทุนนี้ชื่อว่า กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อการออม (BEQSSF)

กองทุนนี้จดทะเบียนเป็นกองที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า สามารถนำเงินลงทุนไปใช้เป็น SSF พิเศษได้ด้วย

ที่ใช้คำว่า ได้ด้วย เนื่องจาก SSF พิเศษที่มติครม. กำหนดมา บอกว่า จะใช้วงเงิน 200,000 พิเศษนี้ได้ ต้องเป็นการลงทุนที่อยู่ในช่วง 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 2563 เท่านั้น

เพราะฉะนั้นกองทุนบัวหลวง เลยมองว่าเพื่อทำให้ชัดเจนไปเลย เนื่องจากว่า SSF ธรรมดา และ SSF พิเศษ มีเงื่อนไขของกองที่แตกต่างกันอยู่บ้าง และเพื่อป้องกันการสับสนในการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนั้นในช่วง 3 เดือนแรกที่ขายคือ  1 เม.ย.-30 มิ.ย. 2563 นี้ เราจะขายกองเฉพาะในสิทธิเฉพาะ SSF พิเศษ วงเงิน 200,000 บาทเท่านั้น หากใครซื้อเกินสิทธินี้จะไม่สามารถนำส่วนที่เกินไปใช้เป็น SSF ธรรมดาได้ เพราะกองทุนบัวหลวงกำหนดชัดเจนว่า 3 เดือนนี้สำหรับ SSF พิเศษ

ในเอกสารหนังสือรับรองการซื้อที่จะส่งให้ลูกค้าต้นปีหน้า ก็จะระบุชัดเจนว่า เงินที่ลงทุนในช่วงนี้คือ SSF พิเศษ ลงทุนแล้วไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 200,000 บาท

ส่วนหลังจากเดือน มิ.ย. 2563 ไปแล้ว กองทุน BEQSSF ก็ยังคงอยู่ เพียงแต่การลงทุนหลังจากนั้นจะเป็นการลงทุนโดยใช้สิทธิ SSF ธรรมดาไป และก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะออก SSF ธรรมดาออกมาในรูปแบบอื่นมานำเสนอให้ผู้ลงทุนเพิ่มเติมเช่นกัน

วิกฤติจากโควิด-19 ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเกินความคาดหมายของหลายคน และตลาดหุ้นไทยก็ตกลงมามากกว่า 30% จนทำให้ราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) คาดการณ์ อยู่ในระดับที่น่าสนใจ จาก 15 เท่า ลงมาเหลือกว่า 11 เท่า ดังนั้นในช่วงเวลานี้นักลงทุนหลายๆ คน รวมถึงนักลงทุนสถาบัน มองว่า เป็นช่วงที่หุ้นมีราคาที่น่าสนใจ ซื้อวันนี้ลงทุนระยะยาว รอคอยเพื่อวันที่หุ้นไทยจะกลับมา เพราะฉะนั้นการลงทุนใน SSF พิเศษตรงนี้ ก็ถือว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีสำหรับคนที่อยากลงทุนในช่วงที่หุ้นราคาต่ำๆ

ทั้งนี้ SSF หุ้นไทยเพื่อการออมของกองทุนบัวหลวง ไม่ได้กำหนดว่าจะลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน หรือจะลงทุนหุ้นกี่ตัว ผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ดูแล ซึ่งในเวลานี้ ตลาดมีของดี ของถูกให้เลือกมากมาย