B-ENHANCED โอกาสของกองทุนรวมตราสารหนี้

B-ENHANCED โอกาสของกองทุนรวมตราสารหนี้

โดย     พริ้มพัชร จิรบวรพงศา AFPTTM

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

BF Knowledge Center

กองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นเครื่องมือการลงทุนที่นักลงทุนต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอยู่นิดหน่อย และค่อนข้างสม่ำเสมอ  ผู้ลงทุนส่วนใหญ่จึงเลือกใช้เป็นแหล่งพักเงินหรือสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน อีกทั้งยังใช้เป็นส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงสำหรับการจัดพอร์ตลงทุน (Asset Allocation) และใช้เป็นสภาพคล่องในการปรับพอร์ตการลงทุนอีกด้วย

ความคุ้นเคยจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น  อาจทำให้ผู้ลงทุนส่วนหนึ่งเข้าใจคลาดเคลื่อนไปว่าการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ “ไม่มีทางขาดทุน” แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้มีโอกาสขาดทุนได้เช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับอัตราผลตอบแทนของตลาด (Market Yield) ในวันนั้นคำนวณกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมตราสารหนี้ให้สะท้อนราคาที่เป็นธรรม (Mark to Market) ตามกฎเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงความเสี่ยงจากการที่ผู้ออกตราสารจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถพิจารณาจากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ก่อนตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ จึงมีความเสี่ยงในระดับต่ำถึงปานกลางค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ตามที่กล่าวข้างต้น และแม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ยังน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุน  โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดการลงทุนมีความผันผวนเช่นปัจจุบัน  ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่การเลือกกองทุนรวมตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ ภายใต้ความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้

ปัจจุบันนักลงทุนแสวงหาโอกาสจากการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้กันมากขึ้น โดยเลือกลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะปานกลางและระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนต้องเข้าใจเรื่องความผันผวนของราคาว่าอาจมีขึ้นลงอยู่บ้าง แต่หากถือครองได้ตามอายุคงเหลือของตราสารหนี้ที่ลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี สำหรับกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะปานกลางอายุถือครองที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 1–3 ปี กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาวอายุถือครองที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 3–7 ปี ทั้งนี้  ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน  เพราะแต่ละกองทุนก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป

สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ช่วงนี้ หากผู้ลงทุนต้องการได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ขอแนะนำให้พิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ในกลุ่ม Non – Investment Grade  คือตราสารหนี้ที่ถูกจัดอันดับตั้งแต่ BBB- ลงไปจนถึง D โดยจัดเป็นตราสารหนี้เก็งกำไรที่แม้ว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเช่นกัน หรืออาจพิจารณาลงทุนในกลุ่ม Unrated Securities คือตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ  ซึ่งการไม่ได้รับการจัดอันดับไม่ได้แปลว่าไม่ดีเสมอไป เพราะบางครั้งเกิดจากการไม่ได้นำตัวเองเข้าไปจัดอันดับ เสมือนสาวงามแต่ไม่ได้ส่งเข้าประกวด

ดังนั้น หากผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน ตราสารหนี้กลุ่มนี้กลับเป็นทางเลือกและเป็นโอกาสที่น่าสนใจ โดยกองทุนบัวหลวงมีกองทุนตราสารหนี้ที่ชื่อว่า “กองทุนเปิดบัวหลวงเพิ่มพูน (B-ENHANCED)”  เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยคงเหลือ (Duration) ประมาณ 1 – 7 ปี  กระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั้งแบบ Investment Grade, Non-Investment Grade และ Unrated Securities สามารถลงทุนในต่างประเทศเฉลี่ยไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ  เหมาะสำหรับการลงทุนมากกว่า 1 ปีขึ้นไป  นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของกองทุนรวมตราสารหนี้ในภาวะที่ตลาดลงทุนมีความเปลี่ยนแปลง