ผู้ถือหน่วยทรัสต์ B-WORK ไฟเขียวเพิ่มทุน เพื่อลงทุนโครงการบางกอก บิสซิเนส เซ็นเตอร์

ผู้ถือหน่วยทรัสต์ B-WORK ไฟเขียวเพิ่มทุน เพื่อลงทุนโครงการบางกอก บิสซิเนส เซ็นเตอร์

  • ผู้ถือหน่วยทรัสต์ B-WORK มีมติอนุมัติลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในโครงการบางกอก บิสซิเนส เซ็นเตอร์ พร้อมเปิดทางเพิ่มทุนขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 86.5 ล้านหน่วย กู้ยืมเงินและออกหุ้นกู้ โดยหลังลงทุนเพิ่ม B-WORK จะเปลี่ยนชื่อเป็น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง ในฐานะ “ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ บัวหลวง ออฟฟิศ (B-WORK)” เปิดเผยว่า ในการประชุมสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจัดประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) ที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ มีมติอนุมัติการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง และงานระบบของโครงการบางกอก บิสซิเนส เซ็นเตอร์ จากบริษัทย่อยของบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลค่าไม่เกิน 1,550 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังอนุมัติการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ โดยออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 86.5 ล้านหน่วย ด้วยการจัดสรรหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายทั้งหมดในการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีรายชื่อปรากฎในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ โดยไม่จัดสรรหน่วยทรัสต์ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใดที่อาจเป็นผลให้กองทรัสต์มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ และหลังจากนั้นจะจัดสรรหน่วยทรัสต์ส่วนที่เหลือจากการเสนอขายในส่วนผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ให้แก่ประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์ยังอนุมัติการกู้ยืมเงินในวงเงินกู้ยืมระยะยาว/ระยะสั้น ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และ/หรือการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของกองทรัสต์ B-WORK วงเงินไม่เกิน 1,920 ล้านบาทด้วย

นายพรชลิต กล่าวว่า หลังการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติม และการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ของกองทรัสต์โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม กองทรัสต์จะเปลี่ยนชื่อภาษาไทยจาก “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ” เป็น “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ” ส่วนชื่อภาษาอังกฤษ จะเปลี่ยนจาก “Bualuang Office Leasehold Real Estate Investment Trust” เป็น “Bualuang Office Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust” ส่วนชื่อย่อหลักทรัพย์ยังเป็น B-WORK เช่นเดิม

สำหรับการประชุม E-AGM ครั้งนี้ มีผู้ถือหน่วยทรัสต์เข้าร่วมประชุมด้วยตนเองและโดยการมอบฉันทะ รวมทั้งสิ้น 49 ราย นับเป็นจำนวนหน่วยทรัสต์ได้ทั้งหมด 231,029,401 หน่วย (จากหน่วยทรัสต์ทั้งหมด 368.800,000 หน่วย) หรือคิดเป็นร้อยละ 62.6435 ของหน่วยทรัสต์ที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด

ปัจจุบัน สินทรัพย์ที่กองทรัสต์ B-WORK ลงทุน ได้แก่ สิทธิการเช่าอาคารสำนักงานและพื้นที่เกี่ยวข้องของโครงการทรู ทาวเวอร์ 1 และโครงการทรู ทาวเวอร์ 2
จากการจัดทำสรุปประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสมมติฐาน สำหรับช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 คาดการณ์ไว้ว่า หากยังไม่ได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 จะทำให้ B-WORK มีรายได้รวมในช่วงดังกล่าว 604.82 ล้านบาท ส่วนกำไรจากการลงทุนสุทธิจะอยู่ที่ 318.00 ล้านบาท ในกรณีเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 จะทำให้ B-WORK มีรายได้รวมเพิ่มเป็น 744.07 ล้านบาท ส่วนกำไรจากการลงทุนสุทธิจะอยู่ที่ 375.58 ล้านบาท

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

กองทุนบัวหลวง
29 เมษายน 2564

ข้อมูลเพิ่มเติม

B-WORK ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงาน ESG Rating ในกำกับของสถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เข้าอยู่ในยูนิเวอร์สของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2563 นับเป็นเครื่องชี้วัดที่สะท้อนให้เห็นว่า B-WORK มีผลการดำเนินงานด้าน ESG อันประกอบไปด้วย สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ที่โดดเด่น