เคล็ดลับวัยซ่า ลงทุนสู้เงินเฟ้อ

เคล็ดลับวัยซ่า ลงทุนสู้เงินเฟ้อ

โดย อรพรรณ บัวประชุม CFP®

ปีนี้บอกเลย ไม่ว่าจะวัยไหนๆ ก็อยากจะสู้เงินเฟ้อให้อยู่หมัด นั่นเป็นเพราะว่าข้าวของแพงขึ้นมาเยอะ ค่าน้ำมันก็สูง แม้แต่ไข่ไก่ที่มีติดบ้านกันทุกบ้าน ก็ขึ้น จากปีก่อนไข่ไก่คละ ตกฟองละ 2.50 บาท แต่มาปีนี้กระโดดมาเป็น 3.50 บาท แล้วจะไม่ให้ตกใจกันได้ยังไง แต่ทำไมต้องเป็นวัยซ่า (Silver Age : SA) ที่ลงทุนสู้เงินเฟ้อนั่นเป็นเพราะ เป็นช่วงวัยที่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ และเตรียมตัวก้าวเข้าสู่วัยเกษียณในอนาคต ดังนั้น จึงต้องหาตัวช่วยเรื่องการลงทุนที่สามารถต่อสู้กับเงินเฟ้อได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

เรื่องการลงทุนที่สู้กับเงินเฟ้อได้ดีนั้น นอกจากการลงทุนในทองคำแล้ว ยังมีการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องใช้เวลาติดตามอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างสบายๆ นั่นก็คือการลงทุนในกองทุนรวม โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านไฟฟ้า ด้านโซล่าร์ รวมถึงด้านเน็ตเวิร์คและการเก็บพลังงาน หรือแม้แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาก็มีการเติบโตของสังคมเมืองมากขึ้น ทำให้มีความต้องการระบบโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นด้วย

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จึงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่หน่วยงานกำกับดูแล มีความต้องการสินทรัพย์และการใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น ไฟฟ้า น้ำ พลังงานสะอาด ซึ่งราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามเงินเฟ้อ ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีรายได้ดี ไม่ขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจ

อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือโครงสร้างพื้นฐานที่มีการกำหนดราคาจากข้อตกลงจากสัญญา ซึ่งมีรายรับจากปริมาณการใช้งานในสินค้าและบริการ อย่างเช่น รถไฟ ถนน ทางด่วน สนามบิน สื่อสาร ยิ่งมีการใช้สินค้าและบริการมาก การเติบโตของระบบเศรษฐกิจก็สูงขึ้น รายรับและการเติบโตของบริษัทกลุ่มนี้จะเติบโตตามเศรษฐกิจโดยรวม

มาถึงตรงนี้ คงอยากรู้กันแล้วว่ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่กล่าวมาคือกองทุนอะไร นั่นก็คือ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หรือ B-GLOB-INFRA เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Legg Mason Clear Bridge Global Infrastructure Income Fund เพียงกองทุนเดียวเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศ G7 เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ส่วนที่เหลือลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา ในบริษัทที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มโทรคมนาคมขนส่ง กลุ่มสื่อสาร กลุ่มด้านการบริการและสังคม

B-GLOB-INFRA เป็นอีกกองทุนที่เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อคาดหวังโอกาสในการรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อ เพื่อให้เงินเก็บเงินออมที่เราสะสมมา มีโอกาสเติบโตและเพิ่มมูลค่าสู้กับข้าวของที่แพงขึ้นในอนาคต แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม การลงทุนย่อมคู่กับความเสี่ยง การแบ่งสัดส่วนเงินลงทุน และการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ค่ะ