‘สี จิ้นผิง’ เยือนแอฟริกาใต้ แจ้งกลุ่ม “บริกส์” ศก.จีนฟื้นตัวได้

‘สี จิ้นผิง’ เยือนแอฟริกาใต้ แจ้งกลุ่ม “บริกส์” ศก.จีนฟื้นตัวได้

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน หารือกับประธานาธิบดี ไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้
เมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.2566) ผู้นำจีนเดินทางถึงนครโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันจันทร์ (21 ส.ค.2566) เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 15 และเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการ – เครดิตภาพ : ซินหัว

แถลงการณ์ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนต่อที่ประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ ระบุ เศรษฐกิจจีนมีความสามารถในการก้าวพ้นวิกฤตและฟื้นตัวได้ นอกจากนั้น ปัจจัยพื้นฐานสําหรับการเติบโตในระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.) นายหวัง เหวินเทา รมว.พาณิชย์ของจีนเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ที่เตรียมไว้ฉบับนี้ต่อที่ประชุมฟอรัมธุรกิจเวทีหนึ่งของการประชุมสุดยอดว่า เศรษฐกิจจีนมีความสามารถในการฟื้นตัวสูง มีศักยภาพมหาศาล และมีพลังอันยิ่งใหญ่

คำยืนยันของผู้นำจีนมีขึ้นในท่ามกลางสถานการณ์ที่เศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังสูญเสียแรงผลักดันในการฟื้นตัว จากสาเหตุภาคอสังหาริมทรัพย์ทรุดหนัก ผู้บริโภคในประเทศใช้จ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย และการเติบโตของสินเชื่อที่ลดลงอย่างมาก ทำให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสี มองว่า จีนมีข้อได้เปรียบในด้านเศรษฐกิจหลายประการ ซึ่งรวมทั้งการเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มีระบบอุตสาหกรรมที่เจริญเติบโตเต็มที่ และมีแรงงานความสามารถสูงอยู่มากมาย

“นาวาเศรษฐกิจจีนลำมหึมาจะแล่นฝ่าคลื่นลมมุ่งไปข้างหน้าต่อไป” ประธานาธิบดีสี ระบุ

การอ่านแถลงการณ์ของผู้นำจีนมีขึ้นในวันเดียวกับที่สหรัฐฯ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์จีน ที่ลดความโปร่งใสในการรายงานข้อมูลพื้นฐานทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังปราบปรามบริษัทในประเทศที่เปิดเผยข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ โดยจีนอ้างว่าเป็นพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบ

ประธานาธิบดีสี อยู่ระหว่างเยือนประเทศแอฟริกาใต้และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 15 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 5 ชาติ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้

สำหรับการเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการ ก่อนหน้าการประชุมสุดยอดบริกส์จะเริ่มขึ้นนั้น เมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.) ประธานาธิบดี ไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์เป็นเกียรติแด่ประธานาธิบดีสี นอกจากนั้น ผู้นำทั้งสองได้เป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือ 11 ฉบับ ครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น ความร่วมมือด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลงทุนโดยตรง การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจ และนิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนนวัตกรรมเทคโนโลยีและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในโครงการริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (เบลต์แอนด์โรด) ร่วมกัน

จีน-แอฟริกาใต้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 25 ปีในปีนี้ และนับวันยิ่งกระชับแน่นแฟ้น ประธานาธิบดีสี กล่าวยกย่องว่า ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมได้เข้าสู่ยุคทอง เป็นมิตรภาพฉันพี่น้องและสหาย

ปัจจุบัน จีนเป็นชาติคู่ค้ารายใหญ่สุดในโลกของแอฟริกาใต้ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 56,740 ล้านดอลลาร์ในปี 2565

ที่มา : รอยเตอร์ / โกลบอลไทมส์