‘หุ้นจีน’ พุ่งแรงหลังรัฐบาลไฟเขียวออกบอนด์ 5 ล้านล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ

‘หุ้นจีน’ พุ่งแรงหลังรัฐบาลไฟเขียวออกบอนด์ 5 ล้านล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ

‘ตลาดหุ้นจีน’ พุ่งแรง โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนเปิดบวกที่ระดับ 2,986.41 เพิ่มขึ้น 24.17 จุด หลังรัฐบาลส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้อนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (1.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำให้หุ้นไทยและตลาดหุ้นภูมิภาคได้รับอานิสงส์

“ตลาดหุ้นจีน” เช้านี้ (25 ต.ค.) ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดบวกที่ระดับ 2,986.41 เพิ่มขึ้น 24.17 จุด หรือ+0.81% และ ดัชนีฮั่งเส็ง (HSI) พุ่งขึ้น 2.6% ที่ระดับ 17,465 จุด

หลังจากที่คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) อนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (1.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5 ล้านล้านบาท) และผ่านร่างกฎหมายที่จะอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นได้รับโควตาในการออกพันธบัตรในปีงบประมาณ 2567 โดยการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ

กลายเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกว่าการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวนในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้แข็งแกร่งขึ้น

รายงานระบุว่า เม็ดเงินที่ระดมได้จากการออกพันธบัตรรัฐบาลครั้งใหม่นี้ จะนำไปเป็นทุนในการสนับสนุนการบูรณะซ่อมแซมพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติในจีน และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการระบายน้ำในพื้นที่เขตเมืองเพื่อช่วยให้จีนมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ

โดยทางการจีน ระบุว่า การออกพันธบัตรดังกล่าวจะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลจีนในปี 2566 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากระดับ 3% ที่ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ ( 24 ต.ค.) ว่าเช้านี้ หุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปรับตัวขึ้นขึ้น ในขณะที่ดัชนี Hang Seng Tech พุ่งขึ้น 5% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม จากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้หุ้นภูมิภาค ในญี่ปุ่น เกาหลีและไทยได้รับอานิสงส์ไปด้วย

หวาง ชิง (Wang Qing) หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคของ Golden Credit Rating International วิเคราะห์ว่าเงินทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลครั้งนี้จะถูกใช้ต่อไปถึงปีหน้า ซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า นโยบายที่สนับสนุนการเติบโตจะยังคงมีผลต่อไป และคาดว่าเศรษฐกิจมหภาคในปีหน้าจะเติบโตอย่างรวดเร็วและสูงถึง 5%”

ที่มา: บลูมเบิร์ก