By… เสกสรร โตวิวัฒน์, CFP
BF Knowledge Center
การปรับลดหุ้นในพอร์ตเมื่อระยะเวลาการลงทุนลดลงเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนควรทำ เพื่อความผันผวนโดยรวมของพอร์ตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่เป็นข้อจำกัดตายตัว แต่ก็มักจะมีคำถามว่าจะต้องทำเมื่อไร กี่ปีทำที ลดลงกี่เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ
ไม่มีคำตอบตายตัว ว่าต้องเท่านั้นเท่านี้ แต่หลักการลดสัดส่วนยังเป็นความจำเป็นหลักที่ต้องทำและสามารถกำหนดเองได้ ลดลงเท่าไรถึงจะดีที่สุดไม่มีคำตอบ แต่คำตอบที่บอกได้คือการเตรียมพร้อมวางแผนและตั้งเป้าหมายของแต่ละคนกับแต่ละวัตถุประสงค์แบบคร่าวๆ จะทำให้การวางแผนลงทุนนั้นดีที่สุดกับเราได้
แม้จะไม่มีแบบแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีแผนที่เหมาะที่สุดสำหรับเราได้ โดยอาจจะไม่ใช่แผนที่ทำให้มีผลกำไรมากที่สุด แต่เป็นแผนที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงได้ มีระดับของโอกาสรอรับผลตอบแทนที่สอดคล้องกับเป้าหมาย และที่สำคัญไม่ยุ่งยากจนเกินไปในการจัดการ สามารถนำไปปฏิบัติได้
ตัวอย่างเช่น ต้องการวางแผนเพื่อเตรียมตัวเกษียณในอีก 20ปีข้างหน้า โดยจะลงทุนเฉลี่ยทุกเดือน เดือนละ 4,000 บาท เป็นผู้รับความเสี่ยงได้สูง จะลงทุนอย่างไรให้เหมาะสม
กรณีนี้มีเวลาลงทุนยาวๆ 20ปี สามารถจัดหุ้นเข้าพอร์ตได้สบายๆ ในช่วงแรกสามารถลงทุนในหุ้นทั้งหมดก็ทำได้ จากนั้นค่อยๆ ลดสัดส่วนลงจนถึงวันเกษียณ โดยการปรับพอร์ตจะทำ 2 แบบทั้งพอร์ตเงินลงทุนที่มีอยู่และเงินลงทุนใหม่รายเดือน เช่น
- ปีที่ 1-5 ลงทุนในกองทุนหุ้นทุกเดือน เดือนละ 4,000บาท
- เริ่มต้นปีที่ 6 ปรับพอร์ตที่มีอยู่ โดยย้ายเงิน ¼ ไปไว้ที่กองทุนตราสารหนี้เพื่อให้พอร์ตรวมกลายเป็น กองทุนหุ้น 75% ตราสารหนี้ 25%
- ปีที่ 6-10 ลงทุนในกองทุนหุ้น เดือนละ 3,000บาท กองทุนตราสารหนี้ เดือนละ 1,000บาท
- เริ่มต้นปีที่ 11 ปรับพอร์ตที่มีอยู่ใหม่ให้มีเงินในกองทุนหุ้นและกองทุนตราสารหนี้อย่างละครึ่ง ให้พอร์ตกลายเป็น กองทุนหุ้น 50% กองทุนตราสารหนี้ 50%
- ปีที่ 11-15 ลงทุนในกองทุนหุ้น เดือนละ 2,000บาท กองทุนตราสารหนี้ เดือนละ 2,000บาท
- เริ่มต้นปีที่ 16 ใกล้เกษียณแล้ว ปรับพอร์ตเงินที่เก็บสะสมไว้ 15 ปีให้อยู่ในกองทุนหุ้น 25% และกองทุนตราสารหนี้ 75%
- ปีที่ 16-20 ลงทุนในกองทุนหุ้น เดือนละ 1,000บาท กองทุนตราสารหนี้ เดือนละ 3,000บาท
นี่เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ของการปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับเวลาลงทุนที่ลดลงทุกวัน แบบไม่ยุ่งยากจนเกินไปนัก และปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน เช่น ผู้ที่กังวลในช่วงใกล้เกษียณอาจปรับเพิ่มเติมในปีที่ 19-20 โดยย้ายเงินลงทุนทั้งหมดมาไว้ที่กองทุนตราสารหนี้ และลงทุนรายเดือนในกองทุนตราสารหนี้ทั้งหมด 4,000บาท ก็สามารถทำได้