ตลาดหุ้นไทยในช่วงระยะสั้น 10 วันที่ผ่านมา (ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Price return index : SET PR ณ วันที่ 2-11 พ.ย. 2563) ปรับตัวขึ้น 12.59% จากความคาดหวัง 2 ปัจจัยหลัก คือ
- สหรัฐอเมริกากำลังจะได้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ชื่อ นายโจ ไบเดน
- วัคซีนของบริษัท Pfizer ต้านโควิด-19 ได้ผลมากกว่า 90%
โดยผู้ลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าไทยจะได้ประโยชน์ จากการส่งออกและการท่องเที่ยว และนายโจ ไบเดน จะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนผ่อนคลายลง เพราะนโยบายของไบเดนค่อนข้างเป็นโลกาภิวัตน์มากกว่า จะส่งผลดีต่อการค้าขายของโลกและการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์ไปด้วย และยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพราะหากใครได้รับเลือกเข้ามาในปีหน้าก็มีความเป็นไปได้ ว่าต้องออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ และนายไบเดน มีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดที่ทำให้หุ้นในธุรกิจพลังงานทดแทนของไทยตอบรับเชิงบวก
และข่าววัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer และ BioNTech มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกัน ซึ่งถือเป็นระดับที่มากกว่าทางการแพทย์คาดหวัง รวมถึงเตรียมยื่นจดทะเบียนต่อ FDA ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการผลิต 50 ล้านโดส ภายในปีนี้และ 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า โดยรวมการมาของวัคซีนรอบนี้ถือว่าถูกเวลาภายใต้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯที่พุ่งสูงและคลายความกังวลการล็อคดาวน์
ส่วนราคาน้ำมันฟื้นเด่น 7-9% ดีดตัวขึ้นมาจากความคาดหวังกิจกรรมทางเศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีขึ้นตามความคาดหวังของวัคซีนโควิด-19 และเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตลาดคาดว่าอาจจะกลับมาฟื้นตัวได้ ได้แก่
- ท่องเที่ยว
- พลังงาน
- ธนาคาร
- ขนส่ง
- การแพทย์
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตลาดคาดว่าอาจจะถูกกดดัน ได้แก่
- ของใช้ส่วนตัว
- ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยกดดันตลาดในช่วงที่เหลือของปีที่ยังคงต้องติดตาม ได้แก่
- ผลประกอบการณ์ ไตรมาส 3 ของปีนี้ ของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังทยอยประกาศออกมา
- การเมืองไทยที่กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ