UNCTAD คาดเศรษฐกิจโลกโตช้า เหลือ 2.6% ในปีนี้ พิษการเงินผันผวน-ภูมิรัฐศาสตร์โลกป่วน

UNCTAD คาดเศรษฐกิจโลกโตช้า เหลือ 2.6% ในปีนี้ พิษการเงินผันผวน-ภูมิรัฐศาสตร์โลกป่วน

การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (United Nations Conference on Trade and Development – UNCTAD) เผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะชะลอลงมาอยู่ที่ 2.6% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.9% ในปี 2024 เนื่องจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากความผันผวนทางการเงินและความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนทั่วโลก

รายงานการค้าและการพัฒนาประจำปี 2025 (Trade and Development Report 2025) ของ UNCTAD ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดการเงิน ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกรุนแรงเกือบจะพอๆ กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งมีผลต่อแนวโน้มการพัฒนาทั่วโลก แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้อานิสงส์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างปัญญาประดิษฐ์ แต่แนวโน้มปีหน้าจะยังคงซบเซา และเติบโตอยู่ที่ 2.6% ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา คาดว่าจะเติบโต 4.3% ในปี 2025 สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ UNCTAD คาดการณ์แนวโน้มดังกล่าว โดยอิงจากผลรวมการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยใช้น้ำหนักของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาด (MER) แทนการใช้กำลังซื้อที่เท่าเทียมกัน (PPP) ซึ่งเป็นวิธีที่องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ใช้อยู่  ซึ่งการใช้ PPP นั้นจะทำให้ผลการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกอยู่ในระดับที่สูงกว่า โดยในวันเดียวกัน OECD คาดว่า จีดีพีโลกจะชะลอตัวลงมาอยูที่ 2.9% ในปี 2026 จากระดับ 3.2% ในปีนี้

รีเบกา กรินสแปน (Rebeca Grynspan) เลขาธิการ UNCTAD เผยว่า ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภาวะทางการเงินมีบทบาทในการกำหนดทิศทางการค้าโลกมากขึ้นเรื่อยๆ การค้าไม่ใช่แค่ห่วงโซ่อุปทานเท่านั้น แต่ยังเป็นห่วงโซ่ของวงเงินสินเชื่อ ระบบการชำระเงิน ตลาดสกุลเงิน และกระแสเงินทุนด้วย

รายงานยังตั้งข้อสังเกตถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุนในการระดมทุนที่สูงขึ้น ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงกระแสเงินทุนอย่างฉับพลัน รวมไปถึงความเสี่ยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปัญหาสภาพภูมิอากาศ ยังจำกัดพื้นที่ทางการคลังและการลงทุนที่มีความจำเป็นต่อการเติบโตของประเทศกำลังพัฒนา

นอกจากนี้ ประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่งที่มีตลาดการเงินในประเทศขนาดเล็ก ยังต้องพึ่งพาการกู้ยืมจากต่างประเทศ โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 7-11% ซึ่งสูงกว่ามาก เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ซึ่งจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 1 – 4% เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ความเปราะบางด้านสภาพภูมิอากาศยังเป็นปัจจัยกดดันทางการเงิน โดยประเทศที่เผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงซ้ำ ๆ ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี

UNCTAD ยังได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปด้านต่างๆ เพื่อลดความเปราะบางทางการเงิน ปรับปรุงความสามารถในการคาดการณ์ และเสริมสร้างความสมดุลระหว่างการค้า การเงิน และการพัฒนาให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมถึงกฎเกณฑ์ทางการค้า สถิติ ระบบการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงตลาดทุน

ที่มา Xinhua, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย