นางแพตริเซีย มงคลวนิช รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการภาษีช้อปช่วยชาติ ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในวันที่ 7 พฤศจิกายน กำหนดให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นำค่าใช้จ่ายเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคมปีนี้ มาหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาทนั้น คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิลดหย่อนในปีนี้คิดเป็นมูลค่าภาษีราว 22,500 ล้านบาท และคาดว่าจะส่งผลให้กรมสรรพากรเสียรายได้ภาษีราว 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีผู้ใช้สิทธิลดหย่อนเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท สูญเสียรายได้ภาษีราว 1,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศในช่วงปลายปี 2560 ซึ่งจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
ทั้งนี้ สำหรับสินค้าและบริการที่จะใช้ลดหย่อนภาษีตามมาตรการนี้ได้ จะต้องมีการออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบโดยผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี VAT เท่านั้น ซึ่งกรณีสินค้าจะยกเว้นการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ำมัน ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ส่วนกรณีบริการจะไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว การจ่ายค่าที่พักโรงแรม ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินนั้น จะนำมาหักลดหย่อนได้เฉพาะค่าตั๋วของสายการบินที่มีการจดทะเบียน VAT และ คิด VAT จากประชาชน โดยต้องซื้อและบินภายในช่วงเวลามาตรการเท่านั้น