รายงานล่าสุดของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ( BRENT) ในปี 2018 จะแตะที่ระดับ 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส WTI จะอยู่ที่ 57.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยปัจจัยหลักมาจากความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ยังคงจำกัดกำลังการผลิตอย่างโอเปก 4 ประเทศ รวมถึงรัสเซีย และประเทศผู้ผลิตอื่นๆอีก 9 ประเทศ ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบไว้ได้
อย่างไรก็ตามยังมีบางประเทศในกลุ่มสมาชิกที่ออกมาประกาศว่าหากตลาดเดือดร้อนเกินไป ก็อาจจะตัดสินใจไม่ทำตามข้อตกลงได้
ด้านกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Shell oil อยากจะเห็นราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันในปัจจุบันถือว่าเริ่มมีสถานการณ์ดีขึ้นโดยราคาฟื้นตัวกลับมาแตะที่ระดับ 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้
ในอดีตราคาน้ำมันดิบเคยขึ้นไปแตะราวๆ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาแล้ว เมื่อช่วงกลางปี 2014 ก่อนที่ราคาจะร่วงลงต่อเนื่อง ส่วนค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อย่าง Shell oil ได้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเช่นกัน