By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การออมเงินและลงทุน ยิ่งเริ่มไวเท่าไหร่ ย่อมดีต่อใจและสุขภาพทางการเงินในช่วงวัยหลังเกษียณมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องน่ายินดี เมื่อยุคนี้เริ่มเห็นเด็กรุ่นใหม่ใส่ใจการออมและการลงทุนมากขึ้น
ประเด็นนี้น่าจะทำให้หน่วยงานกำกับด้านการเงิน สบายใจขึ้นบ้าง เพราะที่ผ่านมา เรามักได้ยินบ่อยครั้งว่า สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นห่วงมาก คือ คนไทยไม่ให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุน หรือให้ความสำคัญสายเกินไป กว่าจะรู้ตัว อายุก็ล่วงเลยสู่วัยเกษียณ เงินที่มีเหลือปรากฎว่า ไม่พอใช้ ต้องไปตรากตรำทำงานยามแก่เฒ่า หรือเฝ้ารอให้ลูกหลานเลี้ยงดู
เมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทีมงานกองทุนบัวหลวงมีโอกาสลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไปจัดกิจกรรม สัมมนาพิเศษ “เปิดโลกลงทุนกับกองทุนบัวหลวง” ที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในงานนี้ คุณผ่องศรี การคนซื่อ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสุเทพ นำทีมเจ้าหน้าที่สาขามาร่วมอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการจะเปิดบัญชีเงินฝากและบัญชีกองทุนรวมด้วย ทีมงานจึงขอโอกาสนี้พูดคุยกับคุณผ่องศรี ถึงความใส่ใจและตื่นตัวด้านการลงทุนของคนเชียงใหม่
คุณผ่องศรี ให้รายละเอียดว่า การเก็บออมโดยรวมของลูกค้าธนาคารกรุงเทพ สาขานี้ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปของเงินฝากเป็นหลัก ส่วนกองทุนรวมยังลงทุนไม่สูงมาก สำหรับกลุ่มที่ลงทุนผ่านกองทุนรวม ส่วนมากมีอายุระดับหนึ่งแล้ว ไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้มาก จึงเน้นการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้มากกว่ากองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น
อย่างไรก็ตาม พบสิ่งที่น่าสนใจ คือ การที่สาขานี้อยู่ใกล้ ม.เชียงใหม่ ก็เริ่มเห็นนักศึกษาจากม.เชียงใหม่ให้ความสนใจกับการลงทุนผ่านกองทุนรวมมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีทีม BF Knowledge Center กองทุนบัวหลวง มาให้ความรู้เรื่องวางแผนการเงิน อธิบายให้นักศึกษาเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนประเภทต่างๆ ก็พบว่า นักศึกษามีความเข้าใจและสนใจเปิดบัญชีเพื่อลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น
ผู้จัดการ สาขาสุเทพ ยังให้คำแนะนำว่า หากเป็นนักศึกษาแล้วสนใจลงทุน ก็ขอแนะนำว่า มีเงิน 500 บาทก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้แล้ว และหากต้องการลงทุนแบบต่อเนื่อง ไม่ต้องเหนื่อยกับการรอหาจังหวะเวลาลงทุน สามารถใช้วิธีลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar cost average หรือ DCA) ตัดเงินในบัญชีจำนวนเท่าๆ กันทุกเดือน ในวันที่ที่กำหนดก็ได้
สำหรับลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่ลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้น คุณผ่องศรี เล่าว่า ประเด็นหนึ่งที่พบบ่อยๆ คือ เมื่อซื้อกองทุนรวมไปแล้ว ผ่านไป 1 ปี ราคาหน่วยลงทุนกองทุนที่ถืออยู่ลดลงต่ำกว่าราคาที่ซื้อ ลูกค้าจะเริ่มกังวลกับทิศทางของกองทุนนั้น
โดยปกติ เจ้าหน้าที่มักบอกลูกค้าเสมอว่า การลงทุนเป็นเรื่องระยะยาว อาจต้องใช้เวลา 3-5 ปีขี้นไป จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยเวลาเพียงปีเดียว แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจลูกค้าบางคน ที่อยากเห็นผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุนในปีแรกก่อน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนต่อเนื่อง
ในเรื่องนี้ เชื่อว่า หากลูกค้าได้รับข้อมูลความรู้ดีๆ มากขึ้น ก็จะช่วยให้เข้าใจถึงหลักการลงทุนที่ดีขึ้น และลงทุนกองทุนรวมได้ในระยะยาว เพื่อไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่ตัวเองวางไว้ โดยไม่หวั่นไหวแม้จะมีสถานการณ์แวดล้อมใดๆ มากระทบ ระหว่างทางที่ลงทุน
นี่คือ หนึ่งในตัวอย่างที่ทีมงานได้รับจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อสำรวจบรรยากาศการลงทุน ยังมีกลุ่มตัวอย่างที่น่าสนใจอีกหลายคน ที่เราจะหยิบเรื่องราวของเขาเหล่านั้น มานำเสนอให้ทุกคนได้รับทราบต่อไป