By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
คนจำนวนหนึ่งมักจะเข้าใจว่า การลงทุน เป็นเรื่องของคนที่ทำงานหารายได้ และมีเงินเก็บ แล้วจึงค่อยมานึกถึงเรื่องนี้ โดยในช่วงที่ยังอยู่ในวัยศึกษา หาความรู้ จึงไม่ได้สนใจการลงทุนเท่าใดนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะยังรู้สึกเป็นเรื่องไกลตัว แต่ว่า การลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เริ่มต้นได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น
เมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา กองทุนบัวหลวง ไปจัดกิจกรรมเวิร์คชอปและสัมมนา “เปิดโลกลงทุน กับกองทุนบัวหลวง” ที่จ.เชียงใหม่ ในระหว่างการจัดกิจกรรม มีเวลาพูดคุยกับนักศึกษาหลายๆ คน และพบว่า บางคนมีแนวคิดที่น่าสนใจ น่าจะเป็นตัวอย่างดีๆ ให้กับคนรุ่นเดียวกันได้ จึงชวนมาพูดคุยเพื่อนำเรื่องราวดีๆ ของพวกเขาเหล่านั้นมานำเสนอ เผื่อน้องๆ คนไหน ที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกันจะได้นำแนวคิดดีๆ ไปปรับใช้ได้
น้องโก้ – บริรักษ์ วัฒนพานิช นักศึกษา ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า เขาเป็นคนที่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสม่ำเสมอ เริ่มจากการจดใส่กระดาษ แล้วยกระดับมาทำบัญชีรายรับรายจ่ายบันทึกไว้ในสมาร์ทโฟน ข้อดีของการทำบัญชี คือ ช่วยให้เขาทราบว่า ใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง และระหว่างทางก็จะคำนวนได้ว่า มีเงินเหลือเท่าไหร่ พอใช้จนถึงปลายเดือนหรือไม่
ขณะเดียวกัน เมื่อมีเงินออม น้องโก้ก็จะนำส่วนหนึ่งไปลงทุน ตอนนี้ น้องโก้ ยังไม่เคยลงทุนในกองทุนรวม แต่ก็เริ่มทำความรู้จักกับกองทุนรวม เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และมองว่า หากเรียนจบไปและเริ่มทำงานมีรายได้ประจำ ก็คงสนใจลงทุนในกองทุนรวม เพราะคิดว่า การลงทุนผ่านกองทุนรวม น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการไปซื้อหุ้นเอง เนื่องจากการลงทุนผ่านกองทุนรวมมีคนบริหารจัดการให้ มีเกณฑ์มาตรฐานวัดการดำเนินงานที่ชัดเจน รวมทั้งผู้จัดการกองทุนก็คงพยายามทำให้กองทุนที่ดูแลนั้นดีอยู่แล้ว
น้องโก้ ยังฝากไปถึงเพื่อนๆ นักศึกษาคนอื่นด้วยว่า การวางแผนการเงินและลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ ในช่วงที่เป็นนักศึกษา เรายังมีเวลาที่จะศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้านการลงทุนได้ ก็ควรเริ่มศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ตั้งแต่วัยนี้เลย หากเรารอให้โตกว่านี้ ทำงานแล้วค่อยศึกษา เมื่อไปถึงเวลานั้นจริงๆ เราอาจจะไม่มีเวลาศึกษาเรื่องพวกนี้แล้วก็ได้ เพราะต้องใช้เวลาส่วนมากไปกับการทำงาน จากการที่น้องโก้ เข้าร่วมเวิร์คชอปกับกองทุนบัวหลวง ซึ่งจัดขึ้นที่ม.เชียงใหม่ ครั้งนี้ ก็ทำให้น้องโก้รู้จักกองทุนรวมมากขึ้น และได้รับรู้ว่า มีกองทุนที่ซื้อเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้
น้องขิม – สุทธิดา แก้วโม่ง นักศึกษาปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อายุ 20 ปี เป็นอีกหนึ่งคนที่มีแนวคิดการออมน่าสนใจ น้องขิม เล่าว่า การออมและลงทุนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากเราปล่อยเงินวางไว้เฉยๆ เมื่อเวลาผ่านไป มีเรื่องเงินเฟ้อมาเกี่ยวข้อง เงิน 100 บาทที่เรามีและเคยซื้อของสิ่งหนึ่งได้ อาจจะไม่สามารถซื้อของชิ้นนั้นได้ในอนาคต เพราะมูลค่าเงินไม่เท่าเดิม ดังนั้น ควรจะนำเงินไปหาผลตอบแทนที่ดีกว่า
น้องขิม แนะนำว่า อยากให้เพื่อน ๆ เห็นความสำคัญของการออมตั้งแต่วัยเรียน เพราะในอนาคตแล้ว เมื่อก้าวสู่วัยทำงานไปจนถึงวัยเกษียณ มีค่าใช้จ่ายรออยู่สูงมากที่ต้องเตรียมรับมือ เช่น ค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ซื้อรถ ซื้อบ้าน ถ้าจะมีเงินใช้จ่ายได้ขนาดนี้ ต้องเกิดจากการออมทั้งสิ้น หากได้เงินมาเท่าไหร่ แล้วใช้จ่ายหมด ไม่เหลือออม ก็คงไม่มีเงินเพียงพอไปใช้จ่ายแน่ๆ และที่น่าเศร้า คือ เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ อาจไม่เหลือเงินไว้ใช้เลย ต้องไปรอพึ่งพาลูกหลาน ดังนั้น การออมจะทำให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างความมั่นคงในชีวิตได้
หลังจากที่น้องขิม เข้าร่วมอบรมกับทีม BF Knowledge Center แล้ว น้องขิม ให้ความเห็นว่า การเวิร์คชอปครั้งนี้ทำให้เข้าใจเรื่องกองทุนรวมมากขึ้น และมองว่า การลงทุนผ่านกองทุนรวมจะช่วยคนที่กำลังอยู่ในวัยศึกษาแล้วต้องการลงทุนในหุ้น แต่ไม่มีเวลาไปดูความเคลื่อนไหวของตลาดได้ เพราะการลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีคนช่วยบริหารเงินให้
“การเวิร์คชอปครั้งนี้ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น จากเดิมอาจจะสนใจเรื่องลงทุนอยู่แล้ว แต่มุ่งเน้นเพียงการหาผลตอบแทนสูงสุด เมื่อร่วมอบรมก็ทำให้เข้าใจว่า ระหว่างทางลงทุนอาจจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นและทำให้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดคิดได้ ดังนั้นก่อนลงทุนจะต้องคิดวิเคราะห์มากขึ้น ว่าควรลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท สัดส่วนเท่าไหร่ ลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของตัวเอง” น้องขิม กล่าว
เหล่านี้ คือ ส่วนหนึ่งของความคิดเด็กรุ่นใหม่ที่เปิดใจพร้อมเติมเต็มความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการออมและลงทุน ทั้งยังใส่ใจลงมือทำเพื่ออนาคตที่มั่นคงของตัวเอง