บอกลาพลาสติก

บอกลาพลาสติก

โดย …จันทร์เพ็ญ กิตติเวทย์วิทยา

กองทุนบัวหลวง

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกการใช้เม็ดพลาสติกขนาดเล็ก หรือ Microbeads เป็นส่วนประกอบในการผลิตเครื่องสำอาง โดยให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีทั้งต่อผู้บริโภคและต่อสภาพแวดล้อมของโลกเรา เพราะก่อนหน้านี้ เราคงเคยเห็นข่าวกันมามากแล้ว ว่า แหล่งน้ำในทะเลและแม่น้ำลำคลองเต็มไปด้วยเศษพลาสติกขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้สัตว์น้ำต่างๆ มีเม็ดพลาสติกขนาดเล็กจำนวนมากในตัว และสุดท้ายมนุษย์เราก็เป็นผู้บริโภคสัตว์น้ำเหล่านี้กลับเข้าไปในร่างกาย เรียกได้ว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างและทำลายในเวลาเดียวกัน

ไมโครบีดส์ (Microbeads) คือ ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของพลาสติกขนาดเล็กกว่า 0.5 มิลลิเมตร ด้วยขนาดที่เล็กทำให้ไม่สามารถหาวิธีการป้องกันไม่ให้สิ่งตกค้างเหล่านี้ไหลลงสู่ธรรมชาติได้และยังไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย ส่งผลให้ก่อนหน้านี้ก็มีหลายๆ ประเทศที่ออกมาตรการห้ามใช้ Microbeads เช่นกัน ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

นอกจากการที่ภาครัฐจะออกมาให้การสนับสนุนการเลิกใช้  Microbeads แล้ว บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Unilever เองก็มีเป้าหมายที่จะลดการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างพลาสติกในการบรรจุสินค้าที่ขายให้กับผู้บริโภคอีกเช่นกัน โดย Unilever ตั้งใจจะลดปริมาณการใช้พลาสติกลงให้ได้ถึง 14% จากที่เคยใช้อยู่ภายในปี 2025 จริงๆแล้วไม่เพียงแต่ Unilever แต่ยังมีอีกหลายผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการใช้พลาสติก การนำกลับมาใช้ใหม่ หรือการลดการปล่อยมลพิษลงสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากเป็นการผลักดันจากภาครัฐเองแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกส่วน คือ ผู้บริโภคอย่างพวกเรานี่เอง ที่ให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้และสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องปรับตัวกับเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น

ในส่วนของประเทศไทยเอง ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเช่นกัน หลังจากวันที่ 1 มกราคมของปีนี้  ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อต่างๆ ก็พร้อมใจกันงดแจกถุงพลาสติก ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. 2559 – 2564) ของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมปลอดขยะ (Zero Waste Society) โดยหลังจากนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเริ่มรณรงค์การเลิกใช้ถุงพลาสติกในร้านค้าชุมชนและตลาดสดอีกด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะยกเลิกการใช้พลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้งเพิ่มอีก 3 ชนิด ได้แก่ หลอดพลาสติก แก้วพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง และกล่องโฟม ให้หมดไปจากประเทศไทยภายในปี 2564 อีกเช่นกัน

เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว เราเองในฐานะผู้บริโภคก็ควรจะให้ความร่วมมือต่อเรื่องเหล่านี้เช่นกัน นอกจากจะช่วยกัน ลด ละ เลิก การใช้พลาสติกแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ การช่วยกันคัดแยกขยะในครัวเรือน ทั้งขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น กระดาษ เศษพลาสติก ขวดแก้ว และแยกขยะมีพิษออกจากขยะทั่วไป ซึ่งถ้าเราทำได้เช่นนี้แล้ว การที่เราจะช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมปลอดขยะ (Zero Waste Society) คงไม่ไกลเกินเอื้อม และยังทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อลูกหลานของเราในระยะยาวอีกด้วย