ในช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมา จะเห็นว่าการสร้างบรรยากาศในการทำงาน คือการทำอย่างไรก็ได้ให้ออฟฟิศดูไม่เหมือนที่ทำงานมากที่สุด ให้ความรู้สึกโมเดิร์น มีความเป็นกันเอง โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่แปลกตา เช่น นำเอาตู้คอนเทนเนอร์มาไว้ตรงพื้นที่ส่วนกลาง หรือแม้กระทั่งการดีไซน์ห้องประชุมให้เหมือนโรงหนัง
แต่พ.ศ.นี้เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรเกินคอนเซ็ปต์ ยกธรรมชาติมาไว้ในที่ทำงาน หรือ ‘Biophilic Design’ ซึ่งแนวคิดนี้มีความเชื่อว่ามนุษย์มีสายสัมพันธ์กับธรรมชาติโดยกำเนิด ล่าสุดผลวิจัยจาก NBBJ บริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียง ระบุว่า ธรรมชาตินำไปสู่ความสุขที่เพิ่มมากขึ้น สุขภาพดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ ผลงานก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น คอนเซ็ปต์นี้กำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายในต่างประเทศ โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องการผลงานสร้างสรรค์ ไม่ปิดกั้นไอเดียของพนักงาน
ยกตัวอย่างที่ทำงานแห่งใหม่ใน Seattle ของ Amazon บริษัทผู้ค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา นำต้นไม้ใบหญ้ากว่า 40,000 ต้น มาตกแต่งบริเวณพื้นที่ทำงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Work Global, Live Local” โดย Amazon ลงทุนจ้างนักตกแต่งสวน เพื่อมาดูแลพื้นที่สีเขียวของเขาแบบเต็มเวลาอีกด้วย เช่นเดียวกับ Alibaba ที่ต้องการให้ที่ทำงานที่ Hangzhou พนักงานเข้าถึงธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยมีแนวคิดที่ว่า ใช้เวลาเดินไม่เกินอึดใจ ทุกคนจะได้สัมผัสกับพื้นที่สีเขียว
ลองคิดดูว่า หากเราต้องติดอยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยม โดยที่เราไม่มีเวลาแม้แต่สักนาทีจะออกไปสัมผัสกับอากาศสดชื่นภายนอกที่ทำงาน การยกธรรมชาติสวยๆ มาไว้ในที่ทำงาน ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี ซึ่งจะช่วยให้พนักงานมีจินตนาการอันโลดแล่น และมีความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ช่วยกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาในการทำงาน ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการกับปัญหายุ่งยาก หรือแม้แต่การบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสร้างพื้นที่สีเขียวในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการซื้อต้นไม้มาวางตั้งไว้แล้วจบไป แต่ว่าการดูแลรักษา และโดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเสมือนว่าอยู่ในธรรมชาติที่แท้จริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหมายถึงเม็ดเงินลงทุนที่แต่ละบริษัทต้องเสียไป แต่เชื่อเถอะว่า ผลตอบแทนที่ได้กลับมานั้น คุ้มค่ากว่าเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน